Google เปิดเครื่องมือวิดีโอ AI “Vids” ฟรี ~แข่งขันด้วย Workspace ecosystem

IT
IT

Google เริ่มให้บริการเครื่องมือแก้ไขวิดีโอ AI “Vids” เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2025 แม้จะประกาศว่า “เปิดให้ผู้ใช้ทุกคน” แต่ความจริงแล้วมีโครงสร้างสองชั้นระหว่างเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันเสียเงิน เวอร์ชันฟรีใช้ได้เพียงฟีเจอร์การแก้ไขพื้นฐาน ส่วนฟีเจอร์การสร้างวิดีโอ AI ขั้นสูงจำกัดเฉพาะผู้ใช้แพนที่เสียเงิน นี่คือการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ใช้การบูรณาการลึกกับ Google Workspace เป็นอาวุธเพื่อทำความแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Canva และ Microsoft Clipchamp

พื้นหลังการเปิดฟรีและเจตนาเชิงกลยุทธ์

การพัฒนา Google Vids เริ่มประกาศครั้งแรกที่งาน Google Cloud Next ’24 เมื่อเดือนเมษายน 2024 หลังจากนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งทำการขยายฟีเจอร์และทดสอบแบบเป็นขั้นตอน จนมาถึงการให้บริการทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2025 นี่ไม่ใช่การเปิดตัวเครื่องมือแค่ครั้งเดียว แต่เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่วางแผนให้หยั่งรากลึกใน Google Workspace ecosystem

การให้บริการทั่วไปครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต AI ฟีเจอร์ที่ Google ใช้ทั่วทั้งบริษัทในเดือนสิงหาคม 2025 ในช่วงเวลาเดียวกันยังมีการประกาศให้บริการ Gemini Code Assist 2.0 การบูรณาการ Gemini ใน Chrome browser และการบูรณาการ Gemini ใน Android Google Docs

การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเปลี่ยนไป AI ทั่วทั้งบริษัทของ Google คือการบูรณาการ AI ที่มี Gemini เป็นหลักเข้าไปในบริการทุกอย่างและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้จากพื้นฐาน ซึ่งเป็นการเข้าสู่เฟสการดำเนินการของแผนกลยุทธ์

รายละเอียดเนื้อหาที่ให้บริการและความแตกต่างของฟีเจอร์

การแสดงออกว่า “ให้บริการผู้ใช้ทุกคน” ต้องระวังการตีความ เพราะความจริงมีโครงสร้างสองชั้นดังนี้

เวอร์ชันฟรีให้ผู้ถือบัญชี Google ใช้ “basic Vids editor” ได้ มีเครื่องมือแก้ไขวิดีโอพื้นฐานและเทมเพลต แต่ไม่มี AI ฟีเจอร์ ส่วนเวอร์ชันเสียเงินให้ผู้สมัครแพน Google Workspace ต่างๆ, Google AI Pro และ Ultra subscription ใช้ฟีเจอร์ AI ที่ล้ำสมัยได้

ฟีเจอร์หลักของเวอร์ชันเสียเงินอาศัยโมเดลการสร้างวิดีโอล่าสุด “Veo 3” ฟีเจอร์ Image-to-Video สร้างคลิปวิดีโอเคลื่อนไหว 8 วินาทีจากภาพนิ่งได้ ฟีเจอร์ AI Avatars สร้างวิดีโอที่ AI Avatar จริงอ่านสคริปต์ได้ ฟีเจอร์ Automatic Transcript Trim ตัดเสียงที่ไม่จำเป็นอย่าง “อืม” “เอ่อ” อัตโนมัติ

ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้สามารถใช้ AI ช่วยเหลือหรือทดแทนขั้นตอนการผลิตวิดีโอที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและทรัพยากรมากที่สุด เปิดทางให้บุคลากรธุรกิจทุกคนใช้วิดีโอเป็นเครื่องมือในการแสดงออกได้

ปัจจัยความแตกต่างจากคู่แข่ง

ตลาดการแก้ไขวิดีโอ AI มีผู้เล่นมากมายแข่งขันกัน คู่แข่งหลักคือ Canva, Microsoft Clipchamp, Adobe Express

Canva ใช้เทมเพลตที่มีดีไซน์สวยงามเป็นอาวุธ มีจุดแข็งในการสร้างโพสต์โซเชียลมีเดียและวิดีโอโปรโมชันการตลาด Microsoft Clipchamp บูรณาการมาตรฐานใน Windows มีลักษณะการใช้งานที่เรียบง่ายที่ผู้เริ่มต้นใช้ได้ง่าย Adobe Express มีการเชื่อมต่อกับสินทรัพย์ครีเอทีฟอย่าง image generation AI Firefly, Adobe Stock, Adobe Fonts เป็นจุดแข็ง

เอกลักษณ์ของ Vids อยู่ที่การบูรณาการลึกกับ Google Workspace ecosystem และการผสมผสานของโมเดล AI พื้นฐานประสิทธิภาพสูง Veo 3 ในการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างรายงานภายในองค์กร วัสดุการฝึกอบรม คู่มือผลิตภัณฑ์ สามารถรวมการสร้างวิดีโอเข้ากับเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่โดยไม่รบกวน

ขณะที่การสร้างวิดีโอพื้นฐานกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ความได้เปรียบในการแข่งขันที่แท้จริงเลื่อนไปที่คุณภาพและความสามารถของโมเดล AI พื้นฐานการสร้างที่อยู่รากฐาน การแข่งขันประสิทธิภาพระหว่าง proprietary model ประสิทธิภาพสูงอย่าง Veo ของ Google, Firefly ของ Adobe, Sora ของ Microsoft และ OpenAI จะเป็นตัวกำหนดการครองตลาด

แนวโน้มในอนาคตและผลกระทบต่อองค์กร

BKK IT News คาดว่าการแพร่หลายของ Vids จะนำมาซึ่งยุคที่บุคลากรธุรกิจที่ไม่มีความรู้เชิ�yวชาญสามารถสร้างเนื้อหาวิดีโอคุณภาพระดับมืออาชีพในระดับใหญ่ได้ ในฝ่ายขายและการตลาดจะสามารถสร้างวิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งเป็นรายบุคคลจำนวนมาก ในฝ่ายบุคคลและการฝึกอบรมจะสามารถสร้างเนื้อหา onboarding คุณภาพสม่ำเสมอ ในการสื่อสารภายในองค์กรจะสามารถทำให้รายงานโครงการที่ซับซ้อนเป็นภาพได้

อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี AI การสร้างมีความเสี่ยงการแพร่กระจายข้อมูลเท็จด้วย Google ได้ใช้มาตรการป้องกันอย่างการฝัง watermark อิเล็กทรอนิกส์ “SynthID” ตัวกรองความปลอดภัยที่ป้องกันการสร้างเนื้อหาที่เป็นอันตราย การปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การดำเนินการ “AI ที่รับผิดชอบ” เหล่านี้จะเป็นเกณฑ์การตัดสินใจที่สำคัญที่ส่งผลต่อการนำเครื่องมือ AI มาใช้ขององค์กร

มาตรการตอบสนองที่องค์กรควรพิจารณา

องค์กรที่ใช้ Google Workspace อยู่แล้วควรทดลองนำ Vids มาใช้และตรวจสอบผลการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน แนะนำให้เริ่มจากโครงการนำร่องในแผนกเฉพาะอย่างการตลาด การฝึกอบรม การประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร และประเมินประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่าย

ก่อนใช้เครื่องมือ AI การสร้าง การจัดทำแนวทางภายในองค์กรที่ชัดเจนก็สำคัญ ต้องกำหนดกฎเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ความปลอดภัยของข้อมูล การใช้งานที่มีจริยธรรม และแจ้งให้พนักงานทราบอย่างทั่วถึง ควรรวมกฎอย่างการห้ามป้อนข้อมูลลับเป็น prompt การห้ามสร้างเนื้อหาที่เหยียดหยาม หลอกลวง

สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาอย่างครีเอเตอร์ นักการตลาด นักการศึกษา เป็นโอกาสในการเปลี่ยนทักษะ การเรียนรู้ความสามารถในการสร้าง prompt การแก้ไขและประเมินผลงานที่ AI สร้าง ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องการในฐานะ “ผู้กำกับ” ในยุค AI สามารถรักษาและพัฒนามูลค่าตลาดได้

การปรากฏของ Vids เป็นสัญลักษณ์ของยุคที่ AI เปลี่ยนจาก “เทคโนโลยีพิเศษ” สำหรับผู้เชี่ยวชาญเป็น “เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพสากล” ที่ทุกคนใช้ประจำ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้และการใช้ AI เป็นพาร์ทเนอร์ในการขยายความสามารถตัวเองจะส่งผลอย่างมากต่อความสามารถในการแข่งขันในอนาคต

ลิงก์บทความอ้างอิง