อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยโต 50.6 พันล้านบาท

อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยโต 50.6 พันล้านบาท IT
IT

ขับเคลื่อนโดย Art Toy เติบโต 14% แต่ยังขาด IP ในประเทศ

ปี 2024 เป็นปีแห่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ตลาดขยายตัวไปถึง 50.6 พันล้านบาท สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) รายงานการเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายละเอียดจะพบว่าการเติบโตนี้พึ่งพาปรากฏการณ์ Art Toy เป็นหลัก

ฟื้นตัวจากผลกระทบแพนเดมิก

ตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ไทยผ่านช่วงปรับตัวที่ยากลำบากมาหลายปี ปี 2022 และ 2023 อุตสาหกรรมเกมซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของตลาดหดตัว 2 ปีติด สาเหตุมาจากการปรับตัวของตลาดเกมโลกและผลจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple

ปี 2023 ตลาดรวมเติบโตเพียง 0.01% เกือบหยุดนิ่ง แต่อุตสาหกรรมตัวละครเริ่มแสดงศักยภาพเติบโต 21% ช่วยรักษาตลาดไม่ให้หดตัว

รัฐบาลยังคงให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โครงการ Game Accelerator Program จาก depa และ Content Lab จากหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม

โครงสร้างการเติบโต 2024 และผลต่างของแต่ละสาขา

การแบ่งสัดส่วนตลาด 50.6 พันล้านบาทในปี 2024 แสดงโครงสร้างการเติบโตที่ไม่สมดุล

อุตสาหกรรมเกม ครอง 71% ของตลาดด้วยมูลค่า 35.9 พันล้านบาท เติบโต 5% เทียบกับปีก่อน หลุดพ้นจากการหดตัว 2 ปีได้สำเร็จ แต่เกมจาก IP ไทยมีมูลค่าเพียง 500 ล้านบาท ลดลง 26% เป็นเพียง 1.4% ของตลาด แสดงการพึ่งพา IP ต่างประเทศอย่างหนัก

อุตสาหกรรมตัวละคร เป็นตัวนำการเติบโตครั้งนี้ มูลค่าตลาด 7.2 พันล้านบาท เติบโต 196% อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะตลาดสินค้าตัวละครโต 506% เป็น 6.1 พันล้านบาท การเติบโตนี้มาจากการตอบสนองกระแส Art Toy โลกอย่าง Pop Mart และ Qposket ของผู้ผลิตไทย

อุตสาหกรรมแอนิเมชัน มูลค่า 3.4 พันล้านบาท หดตัว 3% เป็นปีที่ 3 ติดต่อง เผชิญการแข่งขันด้านราคาจากประเทศเพื่อนบ้านและเทคโนโลยี AI

อุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 4.0 พันล้านบาท คงที่จากปีก่อน ตลาดนิยาย Web หดตัวแต่ E-book และ E-comic โต 6% ชดเชย ยังพึ่งพาเนื้อหาต่างประเทศสูง

น่าสนใจคือ การเติบโต 6.4 พันล้านบาท ของตลาดรวม อุตสาหกรรมตัวละครมีส่วนประมาณ 4.8 พันล้านบาท หรือ 75% ของการเติบโต

ปัญหาโครงสร้างและความยั่งยืน

รูปแบบการเติบโตนี้ทำให้เกิดคำถามเรื่องความยั่งยืน กระแส Art Toy แม้จะพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวของภาคผลิตไทย แต่ยังพึ่งพาแบรนด์ต่างประเทศเหมือนอุตสาหกรรมเกม

ปัญหาใหญ่คือการขาด IP ในประเทศ ทั้งเกม แอนิเมชัน และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต่างพึ่งพาเนื้อหาต่างประเทศ ไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงได้ แม้จะมีตัวอย่างความสำเร็จอย่าง “Crybaby” ของศิลปินไทย Molly ที่ร่วมมือกับ Pop Mart ได้รับความนิยมระดับโลก

ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงด้วย AI และระบบอัตโนมัติทำให้จำนวนแรงงานในปี 2024 ลดลง 1% เหลือ 7,688 คน งานที่เป็นรูปแบบถูกแทนที่ ขณะที่ความต้องการบุคลากรที่มีความคิดสร้างสรรค์กลับเพิ่มขึ้น

แนวโน้มและกลยุทธ์ธุรกิจ

depa คาดการณ์ตลาด 2025 จะแตะ 51.2 พันล้านบาท และ 56.4 พันล้านบาทในปี 2027 เป้าหมายเป็นศูนย์กลางดิจิทัลคอนเทนต์อาเซียน

แต่ BKK IT News มองว่าต้องระวังความยั่งยืนของรูปแบบการเติบโตปัจจุบัน ด้วยลักษณะเก็งกำไรในตลาด Art Toy และการพึ่งพา IP ต่างประเทศมากเกินไป

กลยุทธ์ที่ธุรกิจควรพิจารณา ได้แก่ การลงทุนพัฒนาทักษะยุค AI เพราะงานธรรมดาจะถูกแทนที่ ความคิดสร้างสรรค์จะเป็นจุดแข็งหลัก

การมีส่วนร่วมสร้าง IP ในประเทศ ใช้โครงการบ่มเพาะและกองทุนของรัฐบาล สร้างกลยุทธ์ทรัพย์สินทางปัญญาระยะยาว

การนำแนวคิดเศรษฐกิจสะสมจากตลาด Art Toy ไปใช้ในสาขาอื่น และการกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพาสาขาเดียว

ตัวเลข 50.6 พันล้านบาทน่าประทับใจ แต่ธุรกิจต้องดูคุณภาพและความยั่งยืนของการเติบโตก่อนตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

ลิงก์บทความอ้างอิง