Arm เปิดตัวชิป AI มือถือใหม่ Lumex สร้างโอกาสใหม่ให้องค์กรไทย

Arm เปิดตัวชิป AI มือถือ ~ Lumex ที่สร้างโอกาสใหม่ให้องค์กร IT
IT

บริษัท Arm ผู้ออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับมือถือรุ่นใหม่ชื่อ “Lumex” แล้ว แพลตฟอร์มนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการผลิตสมาร์ทโฟนและการพัฒนาซอฟต์แวร์ขององค์กรไทย กลยุทธ์การประมวลผล AI ที่เน้นการใช้ CPU เป็นหลักจะช่วยลดต้นทุนการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพไปพร้อมกัน ทำให้ผู้ผลิตขนาดกลางและเล็กสามารถนำ AI ขั้นสูงมาใช้ได้

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 บริษัท Arm ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับมือถือรุ่นใหม่ชื่อ “Lumex Compute Subsystem (CSS)” การเปิดตัวครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของบริษัทไทย

วิวัฒนาการการประมวลผล AI บนมือถือ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการประมวลผล AI บนสมาร์ทโฟนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอดีต การประมวลผล AI ส่วนใหญ่จะทำบนเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ แต่ด้วยข้อกำหนดเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวและการตอบสนองแบบเรียลไทม์ การประมวลผลภายในอุปกรณ์ (On-device AI) จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่อรองรับแนวโน้มนี้ บริษัทต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ Apple ได้พัฒนาชิปประมวลผล AI เฉพาะ (NPU) มาใช้งาน อย่างไรก็ตาม NPU มีต้นทุนการผลิตสูงและสถาปัตยกรรมของแต่ละบริษัทแตกต่างกัน ทำให้เป็นภาระสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ จากปัญหาดังกล่าว Arm จึงเลือกใช้กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่เน้น CPU เป็นหลัก

ข้อมูลทางเทคนิคของแพลตฟอร์ม Lumex CSS

จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ Lumex ที่เปิดตัวครั้งนี้คือการนำเสนอในรูปแบบ “Compute Subsystem” แทนการออกใบอนุญาตให้ใช้ CPU และ GPU แยกกันเหมือนในอดีต ระบบย่อยนี้จะถูกรวมและตรวจสอบล่วงหน้าแล้ว ทำให้ผู้ผลิตชิปสามารถลดระยะเวลาการพัฒนาได้สูงสุด 12 เดือน

CPU คอร์ตระกูลใหม่ชื่อ “C1” มี 4 ระดับประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ได้แก่ C1-Ultra, C1-Premium, C1-Pro และ C1-Nano โดย C1-Ultra ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นมีประสิทธิภาพการประมวลผลแบบเธรดเดียวเพิ่มขึ้นสูงสุด 25% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือชุดคำสั่งใหม่ชื่อ “Scalable Matrix Extension v2 (SME2)” ซึ่งเป็นฟีเจอร์เพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ติดตั้งโดยตรงใน CPU คอร์ ทำให้ประสิทธิภาพการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นสูงสุด 5 เท่า ในส่วนของการรู้จำเสียงและการประมวลผลภาษา ผลการทดสอบพบว่าสามารถลดค่าหน่วงเวลาได้ 4.7 เท่า

GPU รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Mali-G1 มีประสิทธิภาพกราฟิกเพิ่มขึ้น 20% และประสิทธิภาพการอนุมาน AI ก็เพิ่มขึ้น 20% เช่นกัน GPU นี้ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับเทคโนโลยี 3nm ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพสูงไว้ได้ในขณะที่ลดการใช้พลังงาน

ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด

การเปิดตัวของ Lumex จะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไปเกิดโครงสร้างการแข่งขันแบบใหม่ ผู้ผลิตชิปต่าง ๆ เช่น MediaTek และ Samsung สามารถนำแพลตฟอร์ม Lumex CSS มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาได้อย่างมาก

การแข่งขันกับ Qualcomm ที่ออกแบบ CPU เองและ Apple ที่ใช้การรวมแนวตั้งจะรุนแรงขึ้น แนวทางของ Arm ที่เน้น “CPU ที่มีประสิทธิภาพสูง + AI เพิ่มเติม” จะแข่งขันโดยตรงกับวิธีการแบบเดิมที่เน้น “CPU ที่ปรับแต่งเอง + NPU เฉพาะ”

บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์หลักอย่าง Google ได้เสร็จสิ้นการรองรับ SME2 แล้ว การนำไปใช้ในระบบนิเวศโดยรวมจะเร่งตัวขึ้น

แนวโน้มในอนาคต

เราคาดการณ์ว่าการแพร่หลายของแพลตฟอร์ม Lumex จะสร้างโอกาสใหม่ให้อุตสาหกรรมการผลิตสมาร์ทโฟนในไทย CSS ที่รวมเข้าด้วยกันแล้วสามารถลดต้นทุนการพัฒนาได้ ผู้ผลิตขนาดกลางและเล็กจะสามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์ AI ประสิทธิภาพสูงได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ Arm ยังเตรียมแบรนด์ “Arm Niva” สำหรับ PC รุ่นใหม่ด้วย การขยายตัวไปยังสาขาอื่นนอกเหนือจากมือถืออาจเร่งตัวขึ้น สถาปัตยกรรม Arm ที่มีจุดเด่นด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะสามารถแข่งขันได้ในตลาดโน้ตบุ๊คด้วย

อย่างไรก็ตาม การผลิตโพรเซสเซอร์ 3nm ล้ำสมัยยังต้องพึ่งพา TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จึงเป็นปัญหาที่ต้องเผชิญ

ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับองค์กรไทย

สำหรับบริษัทไทย การเปิดตัวแพลตฟอร์ม Lumex CSS นำเสนอทางเลือกเชิงกลยุทธ์หลายอย่าง ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถลดทรัพยากรการพัฒนาและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา UI/UX และบริการได้

บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ได้โดยไม่ต้องสนใจความแตกต่างของข้อกำหนด NPU บริษัทจะสามารถขยายไปยังอุปกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้น บริษัทควรพิจารณาการเปลี่ยนไปสู่การพัฒนาฟีเจอร์ AI ที่มีความเป็นสากลสูงและไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์เฉพาะ

สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต การใช้แพลตฟอร์ม CSS จะช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาและต้นทุน แต่การสร้างความแตกต่างอาจเป็นเรื่องยากขึ้น บริษัทจำเป็นต้องเปลี่ยนกลยุทธ์โดยย้ายจุดสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่ม บริษัทควรเปลี่ยนจากข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ไปสู่ประสบการณ์ซอฟต์แวร์และการรวมบริการ

บทความอ้างอิง