OpenAI เปิดตัว Sora 2 และแอปโซเชียล ท้าชน Google Veo 3 ในตลาด AI สร้างวิดีโอ

OpenAI เปิดตัว Sora 2 และแอปโซเชียล ท้าชน Google Veo 3 AI
AI

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 OpenAI ประกาศเปิดตัวโมเดล AI สร้างวิดีโอรุ่นใหม่ “Sora 2” พร้อมแอปพลิเคชันโซเชียล “Sora” การประกาศครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าใหม่ของ AI สร้างสรรค์

วิวัฒนาการทางเทคนิคของ Sora 2

OpenAI กำหนดตำแหน่ง Sora 2 ว่าเป็น “ช่วงเวลาของ GPT-3.5 สำหรับวิดีโอ” การพัฒนาที่สำคัญจากรุ่นก่อนมีดังนี้

การพัฒนาที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการสร้างวิดีโอและเสียงแบบบูรณาการ ผู้ใช้สามารถใช้ text prompt สร้างบทพูด เสียงเอฟเฟกต์ และเสียงสิ่งแวดล้อมที่ซิงค์กับวิดีโออย่างสมบูรณ์ได้ ทำให้กระบวนการผลิตวิดีโอง่ายขึ้นอย่างมาก

ความสามารถในการจำลองกายภาพพัฒนาขึ้น รุ่นก่อนมีปัญหาการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นธรรมชาติเนื่องจากละเลยกฎฟิสิกส์ Sora 2 สามารถจำลองกฎฟิสิกส์ในโลกจริงได้แม่นยำขึ้น เช่น แรงลอยตัว ความแข็ง และการชนกันของวัตถุ

ความแม่นยำต่อ prompt เพิ่มขึ้น Sora 2 สามารถรักษาความสอดคล้องของตัวละครและพื้นหลังในหลายช็อตได้ ความยาววิดีโอสูงสุด 10-20 วินาที ความละเอียดรองรับ 1080p ขึ้นไป

กลยุทธ์แอป Sora แบบ TikTok

สิ่งที่น่าสนใจในการประกาศครั้งนี้คือแอปโซเชียล “Sora” ที่ใช้ Sora 2 แอปนี้มีรูปแบบฟีดแนวตั้งแบบสไลด์เหมือน TikTok หรือ Instagram Reels OpenAI ออกแบบมาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแชร์และดูวิดีโอที่ AI สร้าง

ฟีเจอร์หลักคือ “Cameo” ผู้ใช้บันทึกวิดีโอและเสียงสั้นๆ ครั้งเดียว AI จะเรียนรู้รูปลักษณ์และเสียงของผู้ใช้ จากนั้นสร้างอวตารที่เหมือนตัวเองในวิดีโอใดก็ได้ ผู้ใช้มีการควบคุมเต็มรูปแบบต่อภาพดิจิทัลของตน

ฟีเจอร์นี้เป็นคำตอบของ OpenAI ต่อความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยี deepfake OpenAI วาง “deepfake ที่ได้รับความยินยอม” เป็นศูนย์กลางของแพลตฟอร์ม ทำให้การใช้เทคโนโลยีนี้อยู่ภายใต้การจัดการ

อย่างไรก็ตาม แอป Sora ไม่รองรับการอัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอจาก camera roll ของผู้ใช้ คอนเทนต์ทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI

โครงสร้างการแข่งขันกับ Google Veo 3

ในตลาด AI สร้างวิดีโอ การแข่งขันระหว่าง OpenAI และ Google ทวีความรุนแรง

ด้านเทคนิค Google Veo 3 สามารถสร้างวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K Sora 2 อยู่ที่ 1080p+ แต่ Sora 2 มีข้อได้เปรียบด้านความแม่นยำของการจำลองกายภาพและความสมจริง Sora 2 สร้างวิดีโอยาวสูงสุดกว่า 20 วินาที Veo 3 จำกัดที่ 8 วินาที

ด้านกลยุทธ์มีความแตกต่างชัดเจน Google บูรณาการ Veo 3 เข้ากับระบบนิเวศขนาดใหญ่ของตน Google จัดหาเป็นเครื่องมือสำหรับ YouTube Shorts ให้เข้าถึงครีเอเตอร์หลายล้านคนได้ทันที

ตรงข้าม OpenAI สร้างแพลตฟอร์มโซเชียลอิสระใหม่ “Sora” ตั้งแต่ต้น OpenAI พยายามสร้างจุดหมายปลายทางใหม่ที่คอนเทนต์ AI native รวมตัว OpenAI ไม่ได้แค่จัดหาเครื่องมือสำหรับแพลตฟอร์มที่มีอยู่ แต่สร้างแพลตฟอร์มใหม่เอง

กลยุทธ์ของ Google คือการเสริมสร้างฐานที่มีอยู่ ส่วน OpenAI คือการสร้างตลาดใหม่

ผลกระทบต่อธุรกิจไทย

ไทยมีเงื่อนไขที่พร้อมรับเทคโนโลยี AI สร้างวิดีโอ

คนไทยมีความสนใจสูงต่อเทคโนโลยี AI ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 62% ถึง 91% ใช้ AI อยู่แล้ว รัฐบาลไทยจัดทำ “กลยุทธ์ AI แห่งชาติ (2022-2027)” ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลาง AI ของอาเซียนภายในปี 2027

Sora 2 นำโอกาสใหม่มาสู่ธุรกิจไทย ต้นทุนและอุปสรรคทางเทคนิคในการผลิตวิดีโอคุณภาพสูงลดลง SME และครีเอเตอร์รายบุคคลสามารถผลิตโฆษณาและคอนเทนต์การตลาดระดับมืออาชีพได้ง่าย

ครีเอเตอร์ไทยสามารถผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูงที่สะท้อนวัฒนธรรมและเรื่องราวไทยด้วยต้นทุนต่ำ และเผยแพร่สู่โลก นี่เป็นโอกาสเสริมสร้าง “soft power” ของไทย

ความท้าทายที่เผชิญ

อีกด้านหนึ่งมีปัญหาร้ายแรง

Sora 2 สร้างวิดีโอที่มีความสมจริงสูงได้ วิดีโอเหล่านี้อาจกลายเป็นเครื่องมือสำหรับข่าวปลอม การฉ้อโกง และโฆษณาชวนเชิงการเมือง ไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์และข้อมูลเท็จอยู่แล้ว เทคโนโลยีนี้อาจทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น

กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิ์ในผลงานที่ AI สร้าง กฎหมายยังไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายในการใช้ข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์สำหรับการเทรน AI วิธี “opt-out” ที่ OpenAI ใช้อาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของครีเอเตอร์และบริษัทสื่อไทย

ผลกระทบต่อตลาดแรงงานไม่อาจมองข้าม อาชีพใหม่อย่าง “prompt engineer” เกิดขึ้น อาชีพแบบดั้งเดิมอย่างช่างภาพวิดีโอ กราฟิกดีไซเนอร์ บรรณาธิการ เผชิญความเสี่ยงที่มูลค่าทักษะเฉพาะทางจะลดลง

กลยุทธ์การตอบสนองของธุรกิจ

ธุรกิจไทยต้องรับมือทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่เทคโนโลยีนี้นำมา

ธุรกิจและสมาคมอุตสาหกรรมควรพิจารณาจัดทำแนวทางการใช้ AI สร้างสรรค์อย่างมีจริยธรรม เช่น การใส่ watermark ระบุว่าเป็นคอนเทนต์ AI หรือกระบวนการขอความยินยอมชัดเจนเมื่อใช้ภาพบุคคล

ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงาน ธุรกิจควรลงทุนในโปรแกรมฝึกอบรมใหม่ โปรแกรมนี้จะปรับทักษะบุคลากรสร้างสรรค์ จากการปฏิบัติงานทางเทคนิคไปสู่ความสามารถเชิงกลยุทธ์และสร้างสรรค์มากขึ้น เช่น prompt engineering การออกแบบเรื่องราว การดูแล workflow ของ AI

BKK IT News มองว่าเทคโนโลยี AI สร้างวิดีโอจะแพร่หลายมากขึ้น เทคโนโลยีนี้จะส่งผลต่อการผลิตคอนเทนต์และวิธีการตลาดของธุรกิจ ความเร็วของวิวัฒนาการเทคโนโลยีสูง ธุรกิจควรพิจารณามาตรการตอบสนองล่วงหน้า

ลิงก์บทความอ้างอิง