การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญ “Amazing Thailand Passport Privileges 2025” เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี แคมเปญนี้เป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องจากปี 2024 ระยะเวลาจัดงานคือ 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2025 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแสดงหนังสือเดินทางเพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษจากผู้ประกอบการกว่า 300 รายทั่วประเทศ
ภาพรวมของแคมเปญ
แคมเปญนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงไฮซีซันปลายปี รัฐบาลไทยกำหนดนโยบาย “Big Impact, Act Fast” ในการดำเนินงาน ททท. ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างน้อย 400 ล้านบาท
กลุ่มเป้าหมายคือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคน ททท. เน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดไปที่ 7 ตลาดหลัก ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย และตะวันออกกลาง (ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) วิธีการเข้าร่วมง่ายมาก นักท่องเที่ยวแสดงหนังสือเดินทางเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
แคมเปญประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก กิจกรรมแรกคือโปรโมชั่นลดราคาทั่วประเทศ ผู้ประกอบการกว่า 300 รายเข้าร่วม ประกอบด้วยโรงแรม ร้านอาหาร บริษัททัวร์ และห้างสรรพสินค้า ธุรกิจเหล่านี้มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
กิจกรรมที่สองคือ “Amazing Bag” ททท. จัดกิจกรรมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต ระยะเวลา 1 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2025 นักท่องเที่ยวแสดงหนังสือเดินทางเพื่อรับถุงของขวัญ ถุงประกอบด้วยของที่ระลึกจากชุมชนท้องถิ่นตามแนวคิด “5 Must Do in Thailand” นักท่องเที่ยวยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลบัตรท่องเที่ยวมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท
พื้นหลังการจัดแคมเปญ
รัฐบาลจัดแคมเปญนี้เพื่อรับมือสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่ต่ำกว่าเป้าหมายในปี 2025 รัฐบาลตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36-40 ล้านคน รายได้สูงสุด 3.5 ล้านล้านบาท ผลปรากฏว่า ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2025 มีนักท่องเที่ยวมาเพียง 25.1 ล้านคน ลดลง 7.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดคือตลาดจีนฟื้นตัวช้า ตลาดจีนเคยเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวหลักของไทย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 นักท่องเที่ยวจีนลดลง 34.97% เมื่อเทียบกับปีก่อน ไทยพยายามเติมเต็ม “ช่องว่างของตลาดจีน” รัฐบาลหันไปขยายตลาดอื่น เช่น มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และยุโรป
สถานการณ์ดังกล่าวรวมกับความต้องการบรรลุเป้าหมายในไตรมาสที่ 4 ทำให้รัฐบาลต้องจัดแคมเปญที่ให้สิทธิประโยชน์โดยตรง รัฐบาลได้รับแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายปี รัฐบาลจึงใช้มาตรการที่มีผลในระยะสั้น
เจตนาเชิงกลยุทธ์และซอฟต์พาวเวอร์
แคมเปญนี้สะท้อนเจตนาในการนำกลยุทธ์ซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลไทยมาใช้จริง เนื้อหาใน “Amazing Bag” ไม่ใช่แค่ของแจกธรรมดา ททท. ออกแบบอย่างพิถีพิถัน
ททท. จัดสินค้าภายในตามแนวคิด “5 Must Do” นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วย “Must Taste (ควรลิ้มรส)” มะม่วงอบแห้ง “Must Try (ควรลอง)” พวงกุญแจมวยไทย “Must Buy (ควรซื้อ)” ผ้าทอจากท้องถิ่น “Must Seek (ควรค้นหา)” ของหัตถกรรมจากชุมชน (เช่น พวงกุญแจไดโนเสาร์จากจังหวัดกาฬสินธุ์) และ “Must See (ควรชม)” พวงกุญแจโขน
สินค้าเหล่านี้มาจากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ ตัวอย่างเช่น ผ้าทอจากจังหวัดสกลนคร ของหัตถกรรมจากจังหวัดกาฬสินธุ์ รัฐบาลแปลงนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นนามธรรมให้เป็นสินค้าจริงที่นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ แนวทางนี้มุ่งเผยแพร่เสน่ห์วัฒนธรรมไทยไปทั่วโลก รัฐบาลส่งมอบผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรงให้กับช่างฝีมือท้องถิ่น
โครงสร้างความร่วมมือภาครัฐและเอกชน
แคมเปญนี้ไม่ใช่โครงการของ ททท. เพียงหน่วยงานเดียว หน่วยงานหลายแห่งร่วมมือกัน ประกอบด้วย ททท. สภาการท่องเที่ยวไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และผู้ประกอบการเอกชนกว่า 300 ราย โดยเฉพาะ ทอท. ให้ความร่วมมือต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ทอท. สนับสนุนพื้นที่แจกถุงของขวัญที่สนามบินหลัก
ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโปรโมชั่นรวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แคมเปญหลีกเลี่ยงปัญหาผลประโยชน์ที่กระจุกตัวไปที่โซ่โรงแรมขนาดใหญ่หรือผู้ประกอบการบางราย โครงสร้างการมีส่วนร่วมที่ครอบคลุมนี้มุ่งกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ความเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ระยะยาว
รัฐบาลไทยและ ททท. กำหนดธีมกลยุทธ์ใหม่สำหรับปี 2026 คือ “Value is the New Volume (คุณค่าคือปริมาณใหม่)” รัฐบาลเปลี่ยนจากการไล่ตามจำนวนนักท่องเที่ยว “ปริมาณ” ไปสู่การดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน มุ่งเน้น “คุณภาพ”
อย่างไรก็ตาม แคมเปญครั้งนี้มอบส่วนลดและของขวัญให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคน แคมเปญไม่ได้มุ่งเฉพาะกลุ่มที่มีมูลค่าสูง รัฐบาลได้รับแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองในระยะสั้น การไล่ตาม “คุณภาพ” ในระยะยาวจึงถูกชะลอไว้ชั่วคราว
ในอีกด้านหนึ่ง แคมเปญก็มีการคำนึงถึงความยั่งยืน เนื้อหาใน “Amazing Bag” มาจากชุมชนท้องถิ่น สินค้าเหล่านี้อาจสร้างวงจรที่ดีระหว่างการส่งเสริมวัฒนธรรมและการกระจายรายได้ แคมเปญนี้เป็นการออกแบบเชิงกลยุทธ์ที่ประณีตกว่าการแจกคูปองส่วนลดธรรมดา
แนวโน้มในอนาคต
แคมเปญนี้เป็นมาตรการระยะสั้น รัฐบาลจัดขึ้นในช่วงไฮซีซันปลายปีเท่านั้น ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับผลคูณจากการใช้จ่ายเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวได้รับส่วนลดและสิทธิพิเศษแล้วจะใช้จ่ายเพิ่มเติม
ความสำเร็จของแคมเปญไม่ได้วัดจากการบรรลุเป้าหมายรายได้ 400 ล้านบาทเท่านั้น แคมเปญยังรวมถึงการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์การท่องเที่ยวไทย รัฐบาลต้องหาสมดุลระหว่างการกระตุ้นการใช้จ่ายในระยะสั้นกับความยั่งยืนในระยะยาว นี่จะเป็นความท้าทายต่อไป
ไทยแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามและมาเลเซีย ทุกประเทศพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไทยต้องสร้างตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง นี่จึงเป็นจุดสนใจ
BKK IT News มองว่า แคมเปญนี้มีโอกาสสูงที่จะนำความคึกคักทางเศรษฐกิจในระยะสั้นมาให้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาพื้นฐานยังคงอยู่ ตัวอย่างเช่น ตลาดจีนฟื้นตัวช้า การเปลี่ยนไปสู่รูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนยังไม่เกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องมีมาตรการแยกต่างหาก
ลิงก์บทความอ้างอิง
- Amazing Thailand Passport Privileges 2025 launches with …
- TAT rolls out second year of ‘Amazing Thailand Passport Privileges’
- Thailand Launches “The New Thailand” Vision to Redefine Tourism in 2026
- Foreign tourist arrivals to Thailand in first 9 months of 2025 drop 7.5%
- Prime Minister Outlines Tourism Policy to Upgrade Thailand as …