Google Cloud ประกาศเปิดตัวสายเคเบิลใต้น้ำ TalayLink (ทะเลลิงก์) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2025 เพื่อเชื่อมต่อประเทศไทยกับออสเตรเลียโดยตรง โดยใช้เส้นทางฝั่งตะวันตกของช่องแคบซุนดา หลีกเลี่ยงการพึ่งพาเส้นทางผ่านสิงคโปร์แบบเดิม ประเทศไทยจะยกระดับสถานะเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียนได้อย่างแข็งแกร่งขึ้น
รายละเอียดการประกาศ
TalayLink เป็นสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อเมือง Mandurah รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (ห่างจากเพิร์ธไปทางใต้ประมาณ 75 กม.) กับภาคใต้ของประเทศไทย ชื่อโปรเจกต์ Talay มาจากคำว่า “ทะเล” ในภาษาไทย
Bikash Koley รองประธานฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Google Cloud เป็นผู้ประกาศ สายเคเบิลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Australia Connect Initiative ที่ Google ผลักดัน
พันธมิตรฝ่ายไทยประกอบด้วย AIS ที่ให้บริการ Colocation และ IGC (International Gateway Company) บริษัทลูกของ ALT Telecom ที่รับผิดชอบจุดขึ้นฝั่งและสายเคเบิลภาคพื้นดิน
เส้นทางเชิงกลยุทธ์ที่หลีกเลี่ยงสิงคโปร์
จุดเด่นสำคัญที่สุดของ TalayLink คือการเลือกเส้นทางผ่านฝั่งตะวันตกของช่องแคบซุนดา
สายเคเบิลใต้น้ำจากยุโรป ตะวันออกกลาง และอินเดียมายังเอเชียส่วนใหญ่ ผ่านช่องแคบมะละกาและช่องแคบซุนดาไปรวมศูนย์ที่สิงคโปร์ แต่เส้นทางนี้มีความเสี่ยงหลายประการ
ช่องแคบมะละกามีการสัญจรทางเรือหนาแน่น เกิดอุบัติเหตุสายเคเบิลขาดจากสมอเรือบ่อยครั้ง บริเวณช่องแคบซุนดาตั้งอยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟ มีภูเขาไฟและแผ่นดินไหวบ่อย การปะทุของภูเขาไฟกรากะตัวในปี 1883 ทำให้ชายฝั่งทั้งสองข้างของช่องแคบซุนดาเสียหายอย่างหนัก
การรวมศูนย์ที่สิงคโปร์เพียงแห่งเดียวยังสร้างความเสี่ยงจุดล้มเหลวเดียว (Single Point of Failure) TalayLink ใช้เส้นทางผ่านน้ำลึกในมหาสมุทรอินเดียเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้
ภาคใต้ของไทยกลายเป็น Digital Land Bridge
ศูนย์เชื่อมต่อฝ่ายไทยคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสตูลและสงขลา IGC สร้างสถานีขึ้นฝั่งสายเคเบิลที่สตูล (ฝั่งทะเลอันดามัน) และเดินสายภาคพื้นดินไปถึงสงขลา (ฝั่งอ่าวไทย)
รัฐบาลไทยผลักดันแนวคิด Land Bridge เพื่ออ้อมช่องแคบมะละกามาโดยตลอด แต่โครงการท่าเรือและรถไฟติดปัญหาสิ่งแวดล้อมและความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ TalayLink ทำให้ Digital Land Bridge เกิดขึ้นจริงก่อน
สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทย
TalayLink สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับนโยบาย Cloud First ของรัฐบาลไทย ในขณะที่รัฐบาลผลักดันการย้ายโครงสร้างพื้นฐานไอทีไปสู่คลาวด์ การมีเส้นทางระหว่างประเทศที่ไม่ต้องผ่านสิงคโปร์ช่วยเสริมอธิปไตยดิจิทัลของไทย
Google ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) ในดาต้าเซ็นเตอร์และ Cloud Region ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2024 ผลวิจัยของ Deloitte ระบุว่าการลงทุนนี้อาจเพิ่ม GDP ไทย 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2029 และสร้างงานเฉลี่ย 14,000 ตำแหน่งต่อปี
มูลค่าธุรกรรมการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปี 2024 อยู่ที่ 4.9 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าถึง 8.7 ล้านล้านบาทในปี 2030 TalayLink จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานรองรับปริมาณการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนี้
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาคใต้
การขึ้นฝั่งของ TalayLink ที่ภาคใต้ช่วยกระจายการพัฒนาจากกรุงเทพฯ รัฐบาลไทยมีแนวคิด Southern Economic Corridor (SEC) แต่ยังขาดการลงทุนขนาดใหญ่
เมื่อมีศูนย์เชื่อมต่อของ Google ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และบริการไอทีอาจเข้ามารวมตัวในพื้นที่ใกล้เคียง สำหรับเศรษฐกิจภาคใต้ที่พึ่งพายางพาราและปาล์มน้ำมัน นี่อาจเป็นเสาหลักอุตสาหกรรมใหม่
แนวโน้มในอนาคต
โครงการสายเคเบิลใต้น้ำโดยทั่วไปใช้เวลา 2-3 ปีจากประกาศจนถึงเปิดใช้งาน คาดว่า TalayLink จะเปิดใช้งานประมาณปลายปี 2027 ถึงปี 2028
ในประเทศไทย IGC จะขยายสายเคเบิลภาคพื้นดินและ AIS จะขยายดาต้าเซ็นเตอร์คู่ขนานกันไป
BKK IT News มองว่า TalayLink อาจเปลี่ยนโฉมรูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในภูมิภาคอาเซียน แม้ AWS และ Microsoft ยังคงลงทุนในไทย แต่การสร้างสายเคเบิลใต้น้ำส่วนตัวที่หลีกเลี่ยงช่องแคบซุนดาทำให้ Google มีความได้เปรียบด้านโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับประเทศไทย นี่คือโอกาสในการยืนยันสถานะเป็น Gateway ระหว่างประเทศอิสระ แทนที่จะเป็นเพียงสาขาของสิงคโปร์
ลิงก์บทความอ้างอิง
- TalayLink subsea cable to connect Australia and Thailand | Google Cloud Blog
- Google Cloud announces TalayLink subsea cable and new connectivity hubs in Thailand and Australia – IEEE ComSoc Technology Blog
- Google announces TalayLink subsea cable to boost Australia – Thailand connectivity – Developing Telecoms
- Google Builds TalayLink Subsea Cable Connecting Thailand and Christmas Island, Australia – Submarine Networks
- Submarine Cable Station – ALT


