รัฐบาลไทยประกาศห้ามหน่วยงานราชการส่ง SMS และอีเมลที่มีลิงก์ ปกป้องประชาชนด้วยกฎง่ายๆ ว่า “ข้อความมีลิงก์ = การหลอกลวง” นโยบายนี้เป็นแนวป้องกันสุดท้ายต่อการฉ้อโกงออนไลน์ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
รายละเอียดนโยบายห้ามลิงก์
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 คณะรัฐมนตรีอนุมัติข้อเสนอของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทั้งหมดถูกห้ามส่ง SMS และอีเมลที่มีลิงก์
หากข้อความอ้างว่ามาจากหน่วยงานราชการแต่มีลิงก์ นั่นคือการหลอกลวงแน่นอน ประชาชนควรลบทิ้งและแจ้งเบาะแสทันที ประชาชนไม่ต้องตรวจสอบความถูกต้องอีกต่อไป
การรณรงค์ “อย่าคลิก URL น่าสงสัย” ในอดีตไม่ได้ผลอีกต่อไป เทคนิคใหม่อย่าง URL สั้น โดเมนคล้ายกัน และข้อความที่ AI สร้างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติทำให้การแยกแยะยากขึ้น ประชาชนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะของจริงกับของปลอมได้
ความร้ายแรงของการฉ้อโกง
ในช่วงมีนาคม 2022 ถึงเมษายน 2025 ไทยสูญเสียจากอาชญากรรมไซเบอร์รวม 890 พันล้านบาท เหยื่อใหม่แจ้งความประมาณ 700 รายต่อวัน ความเสียหายต่อวันเกิน 65 ล้านบาท
มิจฉาชีพใช้ SMS เป็นช่องทางหลักในการโจมตี ปลอมตัวเป็นการไฟฟ้า กรมสรรพากร หรือตำรวจ อ้างว่า “ค่าไฟค้างชำระ” หรือ “คืนภาษี” เพื่อหลอกให้กดลิงก์ เมื่อกดลิงก์แล้วจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอันตราย อุปกรณ์จะถูกควบคุมจากระยะไกล
การเข้มงวดแบบเป็นขั้นตอน
มาตรการครั้งนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการโอบล้อมที่ดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน
กรกฎาคม 2025 ธนาคารแห่งประเทศไทย (BoT) ห้ามธนาคารและสถาบันการเงินส่ง SMS และอีเมลที่มีลิงก์ ธนาคารต้องใช้การยืนยันใบหน้าสำหรับการโอนเงินเกิน 50,000 บาท
สิงหาคม 2025 สำนักงาน กสทช. กำหนดให้ผู้ให้บริการส่ง SMS ต้องลงทะเบียน Sender ID ล่วงหน้า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องสแกนลิงก์ใน SMS ทุกข้อความที่ผ่านเครือข่าย ลิงก์อันตรายจะถูกบล็อก
“AOC 1441” มีบทบาทสำคัญในการจัดการกับอาชญากรรม ในช่วง 3 เดือนตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 ถึงมกราคม 2025 AOC รับเรื่องร้องเรียน 1.43 ล้านรายการ AOC อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม 340,000 บัญชี ป้องกันความเสียหาย 22 พันล้านบาท
การเปลี่ยนไปใช้ Super App
รัฐบาลส่งเสริม Super App ที่รัฐบาลพัฒนาขึ้นเป็นช่องทางเข้าถึงที่ปลอดภัยแทนลิงก์
“ThaID” เป็นแอปพลิเคชัน Digital ID ที่กรมการปกครองพัฒนาขึ้น รัฐบาลจะส่งการแจ้งเตือนไปยังกล่องข้อความที่ปลอดภัยในแอปนี้
“ทางรัฐ” เป็นเกตเวย์ของบริการต่างๆ ที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) พัฒนาขึ้น มียอดดาวน์โหลดเกิน 41 ล้านครั้ง
การแจ้งเตือนค่าไฟและค่าน้ำจะแจ้งเฉพาะจำนวนเงินและวันครบกำหนดผ่าน SMS ประชาชนต้องเปิดแอปพลิเคชันทางการเอง ประชาชนสามารถใช้ฟังก์ชันชำระค่าสาธารณูปโภคของแอปมือถือธนาคารได้
ความท้าทายและแนวโน้มในอนาคต
กลุ่มที่มีความรู้ดิจิทัลสูงต้อนรับนโยบายนี้ แต่นโยบายนี้เป็นอุปสรรคใหม่สำหรับผู้สูงอายุและคนในชนบท รัฐบาลประกาศว่า “ไม่ส่งลิงก์” แต่ผู้สูงอายุที่ไม่ทราบข้อมูลนี้ยังคงมีความเสี่ยงที่จะคลิก SMS หลอกลวง
MDES และ สสส. จัดโปรแกรม “วัคซีนไซเบอร์” สำหรับผู้สูงอายุ มีเวิร์กช็อปสอนวิธีใช้แอปพลิเคชันทางการอย่างปลอดภัย
สภาผู้บริโภค (TCC) ร้องขอให้มีมาตรการที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น การกำหนดให้ใช้โดเมน “.go.th” อย่างเคร่งครัด และการได้รับเครื่องหมายยืนยันตัวตนบนโซเชียลมีเดีย
การจัดการกับอาชญากรรมข้ามแดนก็เป็นความท้าทาย ตามแนวชายแดนเมียนมา กัมพูชา ลาวมีคอมพาวด์หลอกลวงขนาดใหญ่ MDES ดำเนินการตัดสายอินเทอร์เน็ตและหอสัญญาณโทรศัพท์ตามแนวชายแดน
รัฐบาลไทยร่วมมือกับประเทศในอาเซียน จีน และสหรัฐฯ เป้าหมายคือเสริมสร้างความร่วมมือในการสืบสวน
ประชาชนสามารถปกป้องตัวเองด้วยกฎง่ายๆ ว่า “ลิงก์ = การหลอกลวง” อัตราความสำเร็จของการฟิชชิงแบบพื้นฐานจะลดลง
อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพอาจพัฒนาวิธีการใหม่ เช่น การหลอกลวงแบบสนทนา หรือ Deepfake
BKK IT News มองว่าสิ่งที่น่าสนใจคือ รัฐบาลไทยกำลังท้าทายการสร้างเครือข่ายความไว้วางใจใหม่ เครือข่ายนี้ต้องการความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน ความสำเร็จหรือความล้มเหลวอาจส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของอาเซียนทั้งภูมิภาค
บทความอ้างอิง
- Thailand bans government SMS links to stop scams – ContentGrip
- The Ministry of Digital Economy and Society (MED) has cancelled SMS and emails with government links – Money and Banking
- Government Bans All Official Links in Texts and Emails to Fight Scams – Nation Thailand
- Thailand bans SMS, email messages with links to fight online scams – Tech in Asia
- Anti Online Scam Operation Center: AOC – ITU


