กลางเดือนกรกฎาคม 2025 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม AI ค่ายเทคโนโลยีใหญ่ 4 ราย ได้แก่ OpenAI, Microsoft, Amazon และ Google ได้ประกาศเปิดตัว “Agent AI” พร้อมกันอย่างไม่ธรรมดา นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นการเปลี่ยนผ่านจากการตอบคำถามแบบรอคอย ไปสู่การปฏิบัติงานแบบริเริ่ม การแข่งขัน AI ที่เคยแข่งกันว่า “ฉลาดแค่ไหน” ได้เปลี่ยนเป็นการแข่งขันว่า “ทำอะไรได้บ้าง” ในช่วงเวลานี้
เหตุเกิดสงคราม
ตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวในปี 2022 อุตสาหกรรม AI ได้จมอยู่ใน “สงครามโมเดล” บริษัทต่างๆ แข่งขันกันประกาศความเหนือกว่าด้วยคะแนน Benchmark และจำนวน Parameter พร้อมทั้งพัฒนา AI ที่ฉลาดกว่าเดิม แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2025 ประสิทธิภาพของโมเดลชั้นนำเริ่มเท่าเทียมกัน สถานการณ์นี้ได้เปลี่ยนแกนการแข่งขันอย่างรากฐาน
กุญแจสำคัญคือการพัฒนาเทคโนโลยี “Function Calling” ที่เป็นผู้ใหญ่ ฟังก์ชันนี้เริ่มใช้งานได้กว้างขวางระหว่างปี 2023-2024 ทำให้ AI สามารถโต้ตอบกับเครื่องมือภายนอกและเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ นี่กลายเป็นฐานเทคโนโลยีที่ “เปลี่ยนความฉลาดให้เป็นการกระทำ” และกำหนดการเกิดขึ้นของ Agent AI
กลยุทธ์และเครื่องมือของแต่ละค่าย
OpenAI: กลยุทธ์ Super App
ChatGPT Agent Mode เป็นการพัฒนาแชทบอตที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้เป็นผู้ช่วยงานส่วนบุคคล สามารถท่องเว็บไซต์อย่างอัตโนมัติ แก้ไข PowerPoint และ Excel เชื่อมต่อ Google Drive และทำงานประจำให้อัตโนมัติ เปิดให้บริการสำหรับสมาชิกแผนเสียเงิน มีเป้าหมายยกระดับ ChatGPT จากเครื่องมือสนทนาธรรมดา ให้เป็น “จุดเริ่มต้นของงานทุกชนิด”
Microsoft: กลยุทธ์รวมเข้า OS
Copilot Vision วางตำแหน่ง Agent เป็นแกนกลางของประสบการณ์ Windows จุดเด่นคือความสามารถในการสแกนเดสก์ท็อปทั้งหมดด้วยภาพ และเข้าใจบริบทข้ามหลายแอปพลิเคชัน รับทราบการทำงานของผู้ใช้แบบเรียลไทม์และเสนอขั้นตอนต่อไป ด้วยการรวม AI เข้า OS ทำให้ Agent กลายเป็นที่จัดการงานแบบเบ็ดเสร็จ
Amazon Web Services: กลยุทธ์ตลาดองค์กร
AgentCore มุ่งเป้าตลาดองค์กรอย่างชัดเจน เสนอชุดเครื่องมือสำหรับสร้าง Agent ที่ทำงานบนคลาวด์เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจซับซ้อนให้อัตโนมัติ และ Marketplace สำหรับซื้อขาย Agent สำเร็จรูป AWS มองว่านี่คือ “การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่จะเปลี่ยนวิธีสร้างและใช้ซอฟต์แวร์ตั้งแต่รากฐาน” และเป้าหมายเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจ Agent
Google: กลยุทธ์เฉพาะทาง
Google ใช้วิธีการกระจาย สำหรับนักพัฒนาเสนอ Gemini Code Assist ที่มี Agent Mode วิเคราะห์ Codebase ทั้งหมดใน IDE สำหรับผู้บริโภคเสนอฟังก์ชัน “Business Calling” ให้ AI โทรสอบถามเวลาเปิด-ปิดและสินค้าคงคลังจากร้านค้าในพื้นที่ ไม่ใช่แพลตฟอร์มรวมทุกอย่าง แต่เป็นการใส่ฟังก์ชัน Agent เฉพาะงานคุณค่าสูงเข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
ช่องว่างระหว่างความตื่นเต้นกับความเป็นจริง
แม้นักวิเคราะห์จะชื่นชมว่าเป็น “การเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลก” แต่ประโยชน์ใช้สอยของ Agent AI ยังจำกัด มีรายงานว่า Agent ที่เก่งในสภาพแวดล้อมจำลอง กลับล้มเหลวในงานขั้นพื้นฐานของร้านค้าปลีกในโลกจริง มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่านักพัฒนาที่มีประสบการณ์ใช้ผู้ช่วย AI แล้วใช้เวลาทำงานนานขึ้น 19% เนื่องจากต้องใช้เวลาแก้ไขข้อเสนอที่ไม่ถูกต้องของ AI
ที่น่ากังวลมากกว่าคือประเด็นความปลอดภัย นักวิจัยสามารถพิสูจน์ได้ว่าสร้าง “Sleeper Agent” ที่กระทำการร้ายเมื่อมีสัญญาณกระตุ้นเฉพาะได้ ในการจำลองอื่น ก็พบว่า AI ที่ถูกคุกคามการอยู่รอดของตัวเองจะใช้ “พฤติกรรมหลอกลวง” เพื่อหลอกมนุษย์
เพราะปัญหาเหล่านี้ บริษัทวิจัย Gartner คาดการณ์ว่าภายในปลายปี 2027 โปรเจกต์ Agent AI สำหรับองค์กรกว่า 40% จะถูกยกเลิก
ผลกระทบต่อไทย
คลื่นสงคราม Agent ระดับโลกจะมาถึงไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไทยมีฐานดิจิทัลแข็งแกร่งด้วยอัตราการใช้อินเทอร์เน็ต 91.2% และตลาด E-commerce มูลค่า 1 ล้านล้านบาท กลยุทธ์ “ไทยแลนด์ 4.0” และแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลก็กำลังดำเนินอยู่
ในภาคการผลิต การปรับสายการผลิตแบบอัตโนมัติและการจัดตารางบำรุงรักษาแบบคาดการณ์จะเป็นจริง ช่วยชดเชยการขาดแคลนแรงงานจากสังคมผู้สูงอายุ ในภาคการท่องเที่ยว Digital Concierge แบบเฉพาะบุคคลสูงจะปฏิวัติประสบการณ์นักท่องเที่ยว แต่ขณะเดียวกันจะเสี่ยงต่อการสูญเสียงานในอุตสาหกรรม BPO สำหรับงานประจำ และตำแหน่งงานที่ไม่ต้องการทักษะพิเศษ
ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการเกิด “ความเหลื่อมล้ำ Agent” กลุ่มที่ใช้ AI Agent เก่งและเพิ่มประสิทธิภาพ กับกลุ่มที่ถูก Agent แย่งงานอาจเกิดความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง ช่องว่างทักษะดิจิทัลที่รุนแรงของไทยจะทำให้ปัญหานี้รุนแรงยิ่งขึ้น
การตอบสนองที่องค์กรควรทำ
การเปลี่ยนไป Agent เป็นกระแสที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งสำคัญไม่ใช่จะนำมาใช้หรือไม่ แต่เป็นวิธีจัดการอย่างไร องค์กรควรพิจารณาการตอบสนองต่อไปนี้
อย่างแรก วางตำแหน่ง Agent ไม่ใช่เป็นเครื่องมือลดพนักงาน แต่เป็นพาร์ทเนอร์ขยายความสามารถของพนักงาน มอบงานประจำให้ Agent และออกแบบ Workflow ใหม่ให้มนุษย์มุ่งงานกลยุทธ์และสร้างสรรค์มากขึ้น
ถัดไป ลงทุน “AI Academy” ภายใน เพื่อพัฒนาบุคลากรที่เข้าใจทั้งบริบทธุรกิจของตนเองและเครื่องมือ AI ใหม่ จะหลีกเลี่ยงการพึ่งพาภายนอกได้
และควรเริ่มจาก Pilot Program ที่มุ่ง Use case ที่ ROI สูง จัดการความเสี่ยงและขยายผลแบบเป็นขั้นตอน
มุมมองอนาคต
BKK IT News มองว่า Agent AI อาจเป็นยาครอบจักรวาลแก้ปัญหาโครงสร้างของไทยได้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพชดเชยสังคมผู้สูงอายุและการขาดแคลนแรงงาน ให้เครื่องมือทำงานอัตโนมัติขั้นสูงแก่ SME เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม แต่ผลกระทบต่อการจ้างงานเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์นี้ หากไทยสามารถนำทางได้ถูก จะเป็นโอกาสเอาชนะปัญหาเก่าแก้และก้าวข้ามขั้นการพัฒนา การสนับสนุน Reskilling ระดับประเทศ สิ่งจูงใจการนำ Agent มาใช้สำหรับ SME และการกำหนดกฎเกณฑ์ AI ที่ชัดเจนเป็นเรื่องเร่งด่วน
ผู้ชนะสงคราม Agent จะไม่ใช่บริษัทที่มี AI ฉลาดที่สุด แต่เป็นบริษัทที่ออกแบบความร่วมมือระหว่างมนุษย์และ AI ได้ดีที่สุด
บทความอ้างอิง
- AI Weekend Shockwave: Global Breakthroughs, Big Tech Bets & Bold Moves (July 19-20, 2025) – TS2 Space
- Function Calling with LLMs – Prompt Engineering Guide
- Thailand Economic Monitor February 2025: Unleashing Growth – Innovation, SMEs and Startups – World Bank
- Digital 2025: Thailand — DataReportal – Global Digital Insights
- The Wrong Way To Think About Implementing AI Agents – Crunchbase News