บริษัท Tata Consultancy Services (TCS) ผู้นำอุตสาหกรรม IT ของอินเดียได้ประกาศปรับลดพนักงานจำนวน 12,000 คน คิดเป็น 2% ของพนักงานทั้งหมด 613,000 คน นี่เป็นการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แต่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้คือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากการปฏิวัติ AI ที่อุตสาหกรรมทั้งหมดต้องเผชิญ การปรับลดงานท่ามกลางสถานการณ์ที่ตลาดขยายตัวดีและมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นว่าโมเดลธุรกิจของอุตสาหกรรม IT อินเดียที่ใช้มา 30 ปีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรากฐาน
การปรับลดพนักงานขนาดใหญ่ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรม
สมาคมบริษัทซอฟต์แวร์และบริการของอินเดีย (NASSCOM) คาดการณ์ว่ารายได้ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอินเดียจะเติบโต 5.1% เป็น 2.826 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 และมูลค่าการส่งออกจะเติบโต 4.6% เป็น 2.244 ล้านดอลลาร์ ในปี 2026 ขนาดของอุตสาหกรรมจะเข้าสู่ระดับ 3 ล้านดอลลาร์
ท่ามกลางการเติบโตที่ดีของอุตสาหกรรม เหตุใด TCS ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำจึงตัดสินใจปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะมีการอธิบายเพียงผิวเผินว่าเป็น “ความไม่เข้ากันของทักษะ” แต่ความจริงแล้วมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ลึกซึ้งกว่านั้นเกิดขึ้น
นาย K. Krithivasan ซีอีโอของ TCS ได้อธิบายเหตุผลของการปรับลดว่าเป็น “ความยากลำบากในการปรับตำแหน่งพนักงานระดับอาวุโสไปสู่เทคโนโลยีใหม่” และ “การเปลี่ยนผ่านจากการพัฒนาแบบ Waterfall ไปสู่ Agile” อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าเหตุผลเหล่านี้เป็นเพียงเหตุผลผิวเผิน สาเหตุที่แท้จริงคือการเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI แรงกดดันด้านต้นทุนจากลูกค้า และการยุติ “โมเดลจำนวนพนักงาน” ที่ใช้มา 30 ปี
ข้อจำกัดของโมเดลการเติบโตที่เริ่มต้นจาก Y2K
การพัฒนาของอุตสาหกรรม IT อินเดียตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “โมเดลธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของค่าแรงงานกับประเทศพัฒนาแล้ว” ซึ่งเริ่มต้นจากการแก้ไขปัญหา Y2K บริษัทสามารถให้บริการที่เทียบเท่าด้วยต้นทุนค่าแรงงานที่เป็นเพียงหนึ่งในห้าถึงหนึ่งในสิบของบริษัทยุโรปและอเมริกา สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและโมเดลรายได้แบบเส้นตรงที่เพิ่มยอดขายด้วยการใช้พนักงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม AI ได้โค่นล้มโครงสร้างองค์กรแบบพีระมิดดั้งเดิมจากรากฐาน การทำงานแบบอัตโนมัติของงานที่ทำซ้ำทำให้วิศวกรรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ที่เป็นฐานของพีระมิดและชั้นกลางที่ดูแลการจัดการโครงการและการติดตามโครงสร้างพื้นฐานกลายเป็นช่องว่าง
โมเดล “นาฬิกาทราย” ใหม่กำลังเปลี่ยนไปสู่โครงสร้างที่ประกอบด้วยฐานของบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรอบรู้ด้าน AI ชั้นกลางที่ลดลง และการขยายตัวของชั้นบนที่มีความเชี่ยวชาญขั้นสูงด้าน AI, Data Science และกลยุทธ์ รูปแบบสัญญาก็เปลี่ยนจาก “อัตราค่าแรงต่อเดือน” เป็นโมเดลแบบผลตอบแทนตามผลลัพธ์และแพลตฟอร์ม
การปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ของ TCS
การปรับลดพนักงานของ TCS ไม่ใช่แบบสุ่ม แต่กำหนดเป้าหมายหลักที่ผู้จัดการระดับกลางถึงระดับอาวุโสที่มีต้นทุนค่าแรงสูง หลังจากประกาศการปรับลดเพียงไม่กี่วัน TCS ได้ปรับเงินเดือนเพิ่ม 4% ถึง 8% ให้กับพนักงาน 80% นี่เป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการจัดการชั้นกลางที่มีต้นทุนสูงและรักษาบุคลากรรุ่นใหม่และระดับกลางที่มีความสามารถในการปรับตัว
ในเวลาเดียวกัน TCS ก็ลงทุนขนาดใหญ่ในด้าน AI Pipeline ของโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2024 เป็น 15 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนาคม พร้อมโครงการประมาณ 270 โครงการที่กำลังดำเนินการ การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Nvidia และ Google Cloud เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้าน AI
การขยาย AI Solution สำหรับลูกค้าก็เร่งตัวขึ้น เช่น การนำ Microsoft 365 Copilot ไปใช้กับบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่งทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 18% ถึง 20% และการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ AI ของบริษัท Weatherford ในธุรกิจบริการน้ำมัน
ผลกระทบต่อกลยุทธ์ชาติของอินเดีย
การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมนี้สอดคล้องกับ “IndiaAI Mission” ของรัฐบาลอินเดีย กลยุทธ์ชาติที่เริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2024 ประกอบด้วยเสาหลัก 7 ด้าน เช่น การสร้างโครงสร้างพื้นฐานการคำนวณ AI ขนาดใหญ่ที่มี GPU กว่า 10,000 ชุด การพัฒนาโมเดล AI ในประเทศ และการสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลรวม
เป้าหมายคือให้อินเดียไม่เป็นเพียงผู้บริโภคหรือผู้ให้บริการ AI แต่เป็น “ผู้ผลิต” เทคโนโลยี AI และแพลตฟอร์มหลัก ด้วยกลยุทธ์นี้ อินเดียมุ่งหวังที่จะก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวดของตลาดแรงงานและสร้างฐานะเป็นมหาอำนาจ AI ของโลก
กลยุทธ์การตอบสนองที่หลากหลายของบริษัทอื่น
บริษัท IT หลักของอินเดียตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทำลายล้างนี้ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน Infosys ปฏิเสธการปรับลดพนักงานขนาดใหญ่และวางแผนรับพนักงานใหม่จบใหม่ 20,000 คนในปี 2026 ด้วยการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับ AI ให้กับพนักงานกว่า 275,000 คน เลือกใช้วิธีการฝึกอบรมพนักงานที่มีอยู่
Wipro ยกธง “AI-powered Wipro” และให้บริการตั้งแต่การปรึกษาไปจนถึงบริการกระบวนการธุรกิจโดยใช้แพลตฟอร์ม AI “HOLMES™” ของตัวเอง บริษัทต่างๆ เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทำลายล้างเดียวกัน แต่ใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายตั้งแต่การปรับลดพนักงานแบบก้าวร้าวไปจนถึงการพัฒนาทักษะแบบป้องกัน
ผลกระทบรุนแรงต่อสังคมและเศรษฐกิจ
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนี้นำมาซึ่งความท้าทายร้ายแรงต่อสังคมอินเดีย บริษัทข้อมูลตลาด Unearthinsight ประเมินว่าอาจมีงาน 400,000 ถึง 500,000 ตำแหน่งสูญหายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า World Economic Forum ชี้ให้เห็นว่า 38% ของทักษะหลักที่มีอยู่ในอินเดียจะเปลี่ยนแปลงภายในปี 2030
ภาคส่วน IT สร้างงาน 5.8 ล้านตำแหน่งและคิดเป็นกว่า 7% ของ GDP เป็นรากฐานของชนชั้นกลางในเขตเมืองของอินเดีย การชะลอการจ้างงานและการว่างงานในภาคส่วนนี้จะส่งผลกระทบแบบลูกโซ่ไปยังอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค เช่น อสังหาริมทรุพ์ ยานยนต์ ค้าปลีก นอกจากนี้ยังอาจจำกัดโอกาสการทำงานของบัณฑิตวิศวกรรม 1.5 ล้านคนที่อินเดียผลิตทุกปี
ข้อเสนอแนะสำหรับบริษัทไทย
“การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่” ของอุตสาหกรรม IT อินเดียมีบทเรียนสำคัญสำหรับบริษัทไทย ในระยะสั้น บริษัท IT อินเดียรุ่นใหม่ที่ใช้ AI อาจเป็นพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการ Digital Transformation ของไทย
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ไทยต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน การพัฒนาความสามารถด้าน Deep Tech เช่น AI, Data Science และ Cybersecurity เป็นปัญหาเร่งด่วนเกินกว่าการยกระดับความรู้ด้านดิจิทัลพื้นฐาน
ในภาคการผลิตของไทย บริษัทที่บรรลุ Industry 4.0 แบบสมบูรณ์มีเพียง 2% และอัตราการนำ AI มาใช้อยู่ที่ 18% เท่านั้น แม้ว่า 73% ของบริษัทจะวางแผนนำ AI มาใช้ แต่ 65% ยังระบุปัญหาคุณภาพข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานเป็นอุปสรรคหลัก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะพึ่งพาเทคโนโลยีและบุคลากรต่างชาติมากขึ้น
สรุป
การปรับลดพนักงาน 12,000 คนของ TCS เป็นสัญลักษณ์ของจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ที่อุตสาหกรรม IT อินเดียกำลังเผชิญ การยุติของโมเดลธุรกิจดั้งเดิมที่ใช้ความแตกต่างของค่าแรงงานเป็นอาวุธมา 30 ปี และการเปลี่ยนไปสู่บริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเกิดขึ้นพร้อมกัน
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่การปรับปรุงชั่วคราว แต่เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างมูลค่าดิจิทัลจากรากฐาน ประสบการณ์ของอินเดียแสดงให้เห็นความสำคัญของการตอบสนองเชิงป้องกันต่อการปฏิวัติ AI และความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านจากผู้นำเทคโนโลยีมาใช้เป็นผู้ผลิต
ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย ต้องมองการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์และต้องมุ่งมั่นสร้างขีดความสามารถด้านดิจิทัลของตนเองอย่างแข็งขัน หากเพิกเฉยต่อการปรับตัวและนวัตกรรม อาจติดอยู่ในด้านที่เสียเปรียบของช่องว่างดิจิทัลใหม่
ลิงก์บทความอ้างอิง
- TCS layoffs: Former Tech Mahindra CEO CP Gurnani quotes Sholay line and sends a message to techies
- Tata Consultancy Services actual layoffs said to exceed 12,000
- TCS to cut roughly 12,000 jobs globally as AI investments deepen
- India’s IT biz to grow 6% to $300bn in next FY: Nasscom
- Tech jobs’ AI reckoning; OpenAI’s GPT-5 enters chat