Oracle ปรับลดพนักงานแผนกคลาวด์หลายร้อยคน เปิดความจริงเบื้องหลังการลงทุน AI สร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจไทย

Oracle ปรับลดพนักงานแผนกคลาวด์ เปิดความจริงเบื้องหลังการลงทุน AI สร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจไทย Cloud
Cloud

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 Oracle ได้ดำเนินการปรับลดพนักงานแผนกคลาวด์ทั่วโลก โดยมีผลกระทบต่อพนักงานหลายร้อยคนในหลายประเทศ ทั้งในซีแอตเทิล 161 คน แคลิฟอร์เนีย 143 คน รวมถึงอินเดียและแคนาดา การปรับลดครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาทางการเงิน แต่เป็นการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีกลยุทธ์เพื่อขยายการลงทุนด้าน AI

ประวัติและการเปลี่ยนแปลงของ Oracle

Oracle ได้เปิดตัว Oracle Cloud Infrastructure (OCI) อย่างเป็นทางการในปี 2559 และเริ่มเข้าสู่ตลาดคลาวด์อย่างจริงจัง ในช่วงแรกบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3% และถือเป็นผู้เข้ามาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม การออกแบบคลาวด์ที่เน้นเฉพาะ Enterprise workloads และ HPC กลับสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยไม่ได้ตั้งใจ

ในเดือนกรกฎาคม 2567 Oracle ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ OpenAI ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในยุค AI บริษัทเริ่มเปลี่ยนจากผู้ให้บริการคลาวด์ทั่วไปสู่ “AI Foundry” ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา Oracle ได้ปรับลดพนักงาน 4 ครั้ง และครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการปรับลดพนักงาน

ที่น่าสนใจคือการปรับลดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่แผนก OCI มีการเติบโตสถิติใหม่ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 รายได้จากคลาวด์เพิ่มขึ้น 27% เป็น 67 พันล้านดอลลาร์ และ OCI เติบโต 52% เป็น 30 พันล้านดอลลาร์ แต่ทำไมถึงต้องปรับลดพนักงานในช่วงเวลานี้

คำตอบคือการดำเนินกลยุทธ์การใช้เงินทุนแบบเข้มข้นเพื่อการลงทุน AI การลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในปี 2568 ถึง 212 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเกิน 250 พันล้านดอลลาร์ในปี 2569 การลงทุนมหาศาลนี้ทำให้กระแสเงินสดอิสระเป็นลบชั่วคราว เงินที่ประหยัดได้จากการลดค่าใช้จ่ายพนักงานจะถูกนำไปใช้ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยตรง

สัญญากับ OpenAI มูลค่า 300 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และโปรเจค “Stargate” 5 แสนล้านดอลลาร์ร่วมกับ SoftBank Group ทำให้ Oracle เปลี่ยนโฉมสู่บริษัทโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างสมบูรณ์

ผลกระทบและโอกาสสำหรับธุรกิจไทย

การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทั่วโลกของ Oracle กลายเป็นโอกาสสำคัญสำหรับไทย ในเดือนสิงหาคม 2567 บริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (AIS) เพื่อสร้าง “AIS Cloud” ซึ่งเป็นคลาวด์ไฮเปอร์สเกลของทุนท้องถิ่นแห่งแรกของไทย

AIS Cloud ใช้ Oracle Alloy ในการให้บริการ AI ขั้นสูงจากดาต้าเซ็นเตอร์ภายในประเทศไทย ตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านกฎหมาย เช่น พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และเป็นคลาวด์อธิปไตยที่ผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกลทั่วโลกไม่สามารถให้ได้

ในเดือนมิถุนายน 2568 Oracle ได้ประกาศความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ในการอบรมบุคลากร 100,000 คนในสาขา AI และ Data Science ภายในปี 2571 นี่ไม่ใช่เพียงกิจกรรม CSR แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างฐานบุคลากร AI ของไทย

แนวโน้มในอนาคต

จากมุมมองของ BKK IT News การปรับลดพนักงานของ Oracle ไม่ใช่มาตรการลดต้นทุนระยะสั้น แต่เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาวในยุค AI ไทยอยู่ในตำแหน่งที่จะได้รับประโยชน์หลักจากการเปลี่ยนแปลงนี้

Oracle ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3% ใช้กลยุทธ์การแข่งขันแบบไม่สมมาตรโดยการเน้นเฉพาะ AI หลีกเลี่ยงการแข่งขันแบบเผชิญหน้าทั้งหมดกับ AWS, Azure, และ GCP และมุ่งเน้นทรัพยากรทั้งหมดในส่วนการเติบโตสูงของ AI Infrastructure

ความสำเร็จของ AIS Cloud ในไทยมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นแม่แบบสำหรับการขยายไปยังประเทศอาเซียนอื่น ๆ ในยุคที่ความต้องการอธิปไตยข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น Oracle Alloy ใช้ “โมเดลแฟรนไชส์” ที่มีประสิทธิภาพสำหรับตลาดที่มีความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์

ข้อเสนอแนะสำหรับธุรกิจ

ธุรกิจไทยควรมองการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสทางกลยุทธ์ การย้ายไปยังโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่เป็นเอกลักษณ์ในประเทศผ่าน AIS Cloud ควรได้รับการพิจารณาโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะ workloads ที่มีข้อจำกัดจาก PDPA จะเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการย้าย

สำหรับอุตสาหกรรมการเงิน มีโอกาสในการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วย AI ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตมีโอกาสในด้านการบำรุงรักษาเชิงทำนาย การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Oracle ทำให้เข้าถึงบริการ AI ล้ำสมัยที่ไม่เคยมีให้ใช้ในท้องถิ่นมาก่อน

ด้านบุคลากร การใช้ประโยชน์จากโปรแกรมอบรมร่วมกับ depa อย่างแข็งขันและการสะสมความรู้เชี่ยวชาญด้าน AI และคลาวด์ภายในองค์กรมีความสำคัญ การพัฒนาบุคลากร 100,000 คนมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยอย่างแท้จริง

บทความอ้างอิง