งาน Techsauce Global Summit 2025 ที่จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 4-6 สิงหาคม 2025 ในกรุงเทพมหานคร ได้สิ้นสุดลงแล้ว ธีมของปีนี้คือ “The Dawn of Symbiosis (รุ่งอรุณแห่งการอยู่ร่วมกัน)” งานแสดงให้เห็นอนาคตที่มนุษย์และ AI ทำงานร่วมกัน ไทยได้แสดงกลยุทธ์ระดับชาติเพื่อสร้างตำแหน่งเป็นประตูสู่ดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างชัดเจน ผู้เข้าร่วมจากกว่า 30 ประเทศได้มาร่วมงาน บริษัทผู้จัดแสดง 300 แห่งนำเสนอโซลูชันล่าสุดในด้าน AI, IoT และหุ่นยนต์
วิวัฒนาการ 10 ปีและการสนับสนุนจากรัฐบาล
Techsauce Global Summit มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วจากงานท้องถิ่นขนาดเล็กในปี 2012 ในปี 2023 มีผู้เข้าร่วม 16,000 คนจาก 50 ประเทศ เกิดข้อตกลงทางธุรกิจ 1,000 ราย การเติบโตนี้เกิดจากการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งของกลยุทธ์ “ไทยแลนด์ 4.0” ของรัฐบาลไทย
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เข้าร่วมในฐานะพาร์ทเนอร์หลัก ร่วมจัด “One ASEAN Startup Award” นายนฤตม์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้กล่าวปาฐกถาหลัก การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นที่เห็นได้ชัด รัฐบาลถือว่างานนี้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เสนอกรอบงานการเปลี่ยนแปลง AI อย่างเป็นรูปธรรม
คุณโอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Techsauce กล่าวในปาฐกถาหลักว่า เศรษฐกิจไทยต้องเปลี่ยนจาก “เศรษฐกิจจากขนาด” เป็น “เศรษฐกิจจากปัญญา” เธอเสนอกรอบงาน 5 ขั้นตอนสำหรับการเปลี่ยนแปลง AI สำหรับผู้บริหาร
5 ขั้นตอนประกอบด้วย (1) เรียนรู้วิธีการเรียนรู้ (2) เรียนรู้วิธีการสร้างนวัตกรรม (3) จัดทำกลยุทธ์ AI ขององค์กร (4) พัฒนาแรงงานที่มีทักษะ AI (5) ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง หลักสำคัญคือการทำให้ AI เป็นเสาหลักของงานแทนที่จะเป็นโครงการรอง ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรผ่านการพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมพนักงานทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้เข้าร่วมงาน ศาสตราจารย์ Oussama Khatib จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพูดถึงความร่วมมือระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ คุณ Kfir Godrich จาก BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลกอธิบายการใช้งานแพลตฟอร์มรวม AI “Aladdin” ศาสตราจารย์ Konrad Young อดีตจาก TSMC แนะนำว่าไทยควรมุ่งเน้นไปที่ตลาดเฉพาะเช่น “เซมิคอนดักเตอร์สีเขียว” แทนที่จะเข้าร่วมสงครามเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง
บริษัทไทยได้รับรางวัลการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล
งานมีการมอบรางวัลให้กับกรณีศึกษาความสำเร็จของบริษัทชั้นนำไทยในการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล บริการการแพทย์บางกอกดุสิต (BDMS) ได้รับรางวัล “The Sauciest Corporate Transformer” ดำเนินโครงการนวัตกรรมกว่า 3,000 โครงการ ลงทุนในสตาร์ทอัปด้านเฮลธ์เทคกว่า 15 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขยายการเข้าถึงการดูแลสุขภาพมากกว่า 60% ความสำเร็จนี้ได้รับการยกย่อง
กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย (SCG) ได้รับรางวัล “The Sauciest AI Governance” จัดทำแผนงาน AI และกรอบการกำกับดูแลแบบครอบคลุม ตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล AI รวม AI เข้ากับกระบวนการผลิตและโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมเป้าหมายสุทธิศูนย์ การได้รับรางวัลนี้ที่มีส่วนร่วมของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เป็นตัวอย่างความสำเร็จของการนำ AI มาใช้ผ่านความร่วมมือภาครัฐและเอกชน
ข้อตกลงความร่วมมือ 4,700 ล้านดอลลาร์กับมาเลเซีย
งานสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม บริษัทพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลมาเลเซีย (MDEC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ของไทยลงนามบันทึกข้อตกลง (MoU) ความร่วมมือการส่งออกดิจิทัลมูลค่า 47.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2 พันล้านริงกิต) เป้าหมายคือการเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของทั้งสองประเทศในด้านการร่วมทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเข้าถึงตลาด
ข้อตกลงนี้มีความหมายสำคัญเป็นตัวอย่างการปฏิบัติของ “ข้อตกลงกรอบเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA)” ที่ผู้นำอาเซียนวางแผนไว้ ไทยสนับสนุนการเจรจา DEFA ให้สำเร็จภายในสิ้นปี 2025 อย่างแข็งแกร่ง กรุงเทพฯ กำลังสร้างตำแหน่งเป็นศูนย์กลางการเจรจาข้อตกลงดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง
กลยุทธ์หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
ทิศทางที่เน้นดีพเทคและ AI ของงานเป็นคำตอบเชิงกลยุทธ์เพื่อเอาชนะ “กับดักประเทศรายได้ปานกลาง” ที่ไทยเผชิญมากกว่า 15 ปี เป้าหมายคือการเปลี่ยนจากการประกอบและลอกเลียนไปสู่การสร้างสรรค์และนวัตกรรม สะสมทรัพย์สินทางปัญญามูลค่าสูงในประเทศ
ระบบนิเวศสตาร์ทอัปของไทยอยู่ในอันดับ 53 ของโลก อันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มียูนิคอร์นหลายแห่งแล้วเช่น Line Man Wongnai, Flash Express, Ascend Money การระดมทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 90% ตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2024 เปลี่ยนจากการลงทุนขนาดเล็กเป็นการระดมทุนรอบใหญ่
แนวโน้มและความท้าทายในอนาคต
งานทำหน้าที่เป็นตัวเร่งสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายชาติที่เศรษฐกิจดิจิทัลจะคิดเป็น 30% ของ GDP ภายในปี 2030 คาดว่างานในปี 2023 เพียงงานเดียวสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 3 พันล้านบาท การสนับสนุนการลงทุนและการค้าข้ามพรมแดนมีส่วนสำคัญ
ความสำเร็จของการนำ AI มาใช้ขึ้นอยู่กับการพัฒนาบุคลากร ปาฐกถาหลักชี้ให้เห็นว่าโอกาสการมีงานทำในอนาคตขึ้นอยู่กับการผสมผสาน “ทักษะด้านมนุษย์” และ “ความรู้ด้าน AI” การทำให้วิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 เป็นจริงต้องมีโครงการพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมขนาดใหญ่
BKK IT News มองว่าระบบนิเวศเทคโนโลยีของไทยกำลังพัฒนาอย่างมั่นคงภายใต้กลยุทธ์ระยะยาวที่มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน สำหรับบริษัทต่างๆ การนำ AI มาใช้ควรมองเป็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างต่อเนื่องแทนที่จะเป็นโครงการชั่วคราว การลงทุนในการพัฒนาความสามารถของพนักงานจะเป็นแหล่งที่มาของความได้เปรียบในการแข่งขัน
ลิงค์บทความอ้างอิง
- Techsauce Global Summit 2025 opens, inspiring leaders to define a new symbiosis with AI
- Techsauce Global Summit 2025: “The Dawn of Symbiosis” – The Countdown Begins!
- Malaysia, Thailand ink ten MOUs for $47.28M potential digital exports
- BDMS Wins “The Sauciest Corporate Transformer” Award
- SCG Honored with AI Governance Award at Techsauce Global Summit 2025