AI วางแผนการท่องเที่ยวได้รับความนิยมสูงในไทย ~96% ต้องการใช้ มั่นใจกว่าอินฟลูเอนเซอร์~

AI วางแผนการท่องเที่ยวได้รับความนิยมสูงในไทย ~96% ต้องการใช้ มั่นใจกว่าอินฟลูเอนเซอร์~ AI
AI

การสำรวจล่าสุดของ Booking.com เผยข้อเท็จจริงที่น่าตกใจ นักท่องเที่ยวไทยถึง 96% ต้องการใช้ AI ในการวางแผนการเดินทางในอนาคต ตัวเลขนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 89% อย่างมาก สิ่งที่น่าสนใจคือ AI ได้รับความเชื่อมั่นในฐานะแหล่งข้อมูลการท่องเที่ยวที่ 30% ซึ่งสูงกว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ 21% การเปลี่ยนผ่านบทบาทหลักของแหล่งข้อมูลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังกลายเป็นความจริง

ประวัติศาสตร์ดิจิทัลสนับสนุนการยอมรับ AI

การยอมรับ AI ที่สูงของไทยมีพื้นฐานมาจากการสะสมทางด้านดิจิทัลเป็นระยะเวลา 20 ปี

ตั้งแต่การแพร่หลายของ ADSL บรอดแบนด์ในต้นยุค 2000 ไทยได้สร้างสังคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตถึง 91.2% จำนวนสัญญาโทรศัพท์มือถือคิดเป็น 139% ของประชากร การเชื่อมต่อที่สูงนี้ช่วยสร้างฐานผู้บริโภคดิจิทัลเนทีฟ

ในด้านการท่องเที่ยว บริษัท OTA (Online Travel Agency) ชั้นนำอย่าง Agoda, Booking.com, Traveloka ครองตลาดมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะ Agoda ที่มีการรับรู้สูงถึง 56% และนำตลาด ผู้บริโภคไทยได้สัมผัสกับฟังก์ชัน AI พื้นฐานในการกำหนดราคาและระบบแนะนำมา 20 ปีแล้ว การมาของ Generative AI เป็นเพียงการเพิ่มฟีเจอร์การสนทนาให้กับบริการดิจิทัลที่คุ้นเคยแล้ว

ตัวเลข 96% แสดงความเชื่อใจใน AI จริง

การสำรวจครั้งนี้เผยให้เห็นการประเมิน AI อย่างสมจริงของนักท่องเที่ยวไทย

แม้ 98% แสดงความตื่นเต้นกับ AI แต่ผู้ที่เชื่อใจผลลัพธ์ของ AI โดยไม่ตรวจสอบมีเพียง 9% ส่วนใหญ่ยังคงตรวจสอบผลลัพธ์ของ AI เสมอ (61%) หรือบางครั้ง (17%) กล่าวคือนักท่องเที่ยวไทยมอง AI เป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังไม่ใช่ทางเลือกแทนมนุษย์

รูปแบบการใช้งานจริงก็หลากหลาย ในขั้นวางแผนใช้สำหรับเลือกจุดหมายปลายทาง (49%) และค้นหาประสบการณ์ทางวัฒนธรรม (33%) ระหว่างเดินทางใช้เป็นเครื่องมือแปลภาษา (51%) หลังเดินทางใช้สำหรับแต่งภาพ (47%) AI กลายเป็นเครื่องมือปฏิบัติตลอดวงจรการท่องเที่ยว

เหตุผลที่หลุดพ้นจากอินฟลูเอนเซอร์

AI ได้รับความเชื่อมั่นเหนืออินฟลูเอนเซอร์เนื่องจากปัญหาโครงสร้างของตลาดอินฟลูเอนเซอร์

การสำรวจของ Nida Poll พบว่าคนไทย 52.29% คิดว่าอินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้ “ใช้จริง” ในสินค้าที่โฆษณา ตลาดอิ่มตัวทำให้ขาดการเชื่อมต่อที่แท้จริง เนื้อหาขาดเสน่ห์แพร่หลาย การให้ความสำคัญกับจำนวนผู้ติดตามมากกว่าความเชี่ยวชาญเป็นปัจจัยที่ทำลายความน่าเชื่อถือ

เพิ่มเติมคือเหตุการณ์หลอกลวงของบุคคลดังอย่าง The iCon Group และการแพร่หลายของรีวิวปลอมออนไลน์ทำลายความเชื่อใจของคนทั่วไป ช่องว่างความเชื่อใจนี้ถูกเติมเต็มด้วย AI ที่รับรู้ว่าขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเป็นกลาง

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

การนำ AI มาใช้เร่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

งานตัวกลางการจองแบบเดิมมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูก AI แทนที่ บริษัทนำเที่ยวต้องเปลี่ยนมาเฉพาะด้านที่ AI ตอบสนองยาก (หรูหรา, ผจญภัย, ท่องเที่ยวจูงใจองค์กร) และให้บริการมูลค่าเพิ่มสูง

ในทางกลับกัน AI สามารถกระจายนักท่องเที่ยวจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่แออัดไปยังเมืองท้องถิ่นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ซึ่งตรงกับเป้าหมายการพัฒนาท้องถิ่นของรัฐบาล

ความท้าทายใหม่ที่บริษัทเผชิญ

ในตลาดท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วย AI ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการปฏิบัติตาม PDPA เป็นประเด็นสำคัญ

การทำ Hyper-Personalization ด้วย AI ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก บริษัทต้องอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย และต้องตอบสนองข้อกำหนดที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการขอความยินยอม ความปลอดภัยข้อมูล การคุ้มครองสิทธิผู้ใช้ ค่าปรับสูงเมื่อฝ่าฝืนถูกคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพิสูจน์แล้ว จริงๆแล้ว ตามที่รายงานในไทย PDPA บังคับใช้เข้มงวดเตือนภาคธุรกิจ รัฐบาลได้ดำเนินการลงโทษครั้งใหญ่ตั้งแต่หน่วยงานรัฐบาลถึงเอกชน เข้าสู่ยุคการบังคับใช้จริงแล้ว

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยง “Filter Bubble” จากการแนะนำของ AI ที่อาจเสริมความชอบเดิมจนลดโอกาสประสบการณ์ใหม่ ซึ่งอาจทำลายแก่นแท้ของการท่องเที่ยวคือการค้นพบสิ่งใหม่

มุมมอง BKK IT News: การตอบสนองเชิงกลยุทธ์ของบริษัท

เพื่อความสำเร็จในตลาดอนาคต การตอบสนองดังต่อไปนี้จำเป็น

ประการแรก การใช้โมเดล “Human-in-the-Loop” แทนการอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ใช้ AI ในการประมวลผลข้อมูล และให้พนักงานจดจ่อกับบริการมูลค่าเพิ่มสูงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิผล

ประการต่อไป การลงทุนใน Hyper-Personalization เฉพาะกลุ่มมีความสำคัญ การให้บริการเฉพาะในสาขาที่เติบโต เช่น Wellness Retreat และท่องเที่ยวยั่งยืน โดยใช้ AI สามารถสร้างความแตกต่าง

การพัฒนาทักษะแรงงานเป็นประเด็นลำดับต้น การลงทุนฝึกอบรมให้พนักงานได้ความรู้เรื่อง Data Literacy, Digital Marketing, ความสามารถจัดการ AI จำเป็นสำหรับทั้งการรักษางานและการใช้ประโยชน์จาก AI

สุดท้าย การมอง PDPA Compliance เป็นแหล่งความได้เปรียบในการแข่งขันไม่ใช่ภาระทางกฎหมายมีความสำคัญ การสร้างนโยบายข้อมูลที่โปร่งใสและระบบจัดการผู้ใช้จะเป็นฐานความเชื่อใจของผู้บริโภคในยุค AI

อนาคตการท่องเที่ยวไทยที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะตัดสินด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีและมนุษยธรรมอย่างชาญฉลาด สำหรับบริษัท นี่ไม่ใช่วิกฤติแต่เป็นโอกาสเปลี่ยนแปลง

ลิงค์บทความอิงอ้าง