โครงการระดับ 46,000 ล้านบาท “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” เปิดเฟสแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2025 ตั้งอยู่ที่จุดตัดถนนสีลมและถนนพระราม 4 ใจกลางกรุงเทพฯ โครงการนี้รวมศูนย์การค้า ออฟฟิส โรงแรม และที่พักอาศัย มี “ดุสิตอรุณ” สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในไทย 7 ไร่ หรือ 11,200 ตารางเมตร เป็นจุดเด่นหลัก กรุงเทพฯ ได้รับแลนด์มาร์กใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์เมือง
ประวัติศาสตร์โครงการ
พื้นที่โครงการนี้เป็นที่ตั้งเดิมของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ รุ่นแรก ที่เปิดดำเนินการมา 50 ปี ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2019 โรงแรมแห่งนี้เป็นตึกสูงแห่งแรกของไทย เป็นสัญลักษณ์การพัฒนาสมัยใหม่ของประเทศ หลังจากปิดดำเนินการในปี 2019 บริษัท ดุสิตธานี และ เซ็นทรัล พัฒนา ร่วมมือพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ใหม่
ทำเลนี้มีประวัติสำคัญตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในสมัยรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2394-2411) มีการสร้างคลองและถนนเพื่อรองรับทูตและนักการค้าตะวันตก ตลอดศตวรรษที่ 20 พื้นที่นี้พัฒนาเป็นศูนย์กลางการเงิน ปัจจุบันเป็นจุดเชื่อมต่อสถานี BTS ศาลาแดงและ MRT สีลม เรียกว่า “Super Core CBD”
องค์ประกอบของโครงการและสถานะการเปิด
ศูนย์การค้า “เซ็นทรัล พาร์ค”
ศูนย์การค้าขนาด 130,000 ตารางเมตร เปิดเฟสแรกเมื่อ 4 กันยายน มีแบรนด์กว่า 550 แบรนด์ ตั้งตำแหน่งเป็น “Experience District” หรือย่านแห่งการสัมผัสประสบการณ์
กลยุทธ์แลนด์มาร์กอาหาร เป็นจุดเด่นหลัก มีร้านอาหารที่เปิดครั้งแรกในไทย อาทิ “คิวะมิยะ” (เทปปันยากิเนื้อวากิว) “ชองดัมการ์เดน” (เกาหลีบาร์บีคิว) “หลงจิง” (ฟิวชันจีน) ชั้น LG “พาร์คไซด์ มาร์เก็ต” รวบรวมร้านอาหารข้างทาง 70 ร้าน และร้านในมิชลินไกด์
อาคารสำนักงาน
อาคารสำนักงานระดับ A สูง 43 ชั้น กำหนดเปิดในไตรมาส 2 ปี 2025 พื้นที่ให้เช่ารวม 60,000-63,000 ตารางเมตร มุ่งรับการรับรอง LEED, WELL และ WiredScore ชั้นที่ 35 ส่วนใหญ่เป็น Premium Flexible Workspace ของ Servcorp
โรงแรมและที่พักอาศัย
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ 250 ห้อง เปิด Soft Opening แล้วในปี 2024 ที่พักอาศัยแบ่งเป็น 2 แบรนด์ คือ “ดุสิต เรสิเดนซ์” (ระดับ Ultra Luxury) และ “ดุสิต พาร์คไซด์” (พักระยะยาว) มีอัตราการขายล่วงหน้า 85-92%
สวนลอยฟ้า “ดุสิตอรุณ”
เปิดให้ประชาชนเข้าชมเมื่อ 3 กันยายน เป็นสวนลอยฟ้าเมืองใหญ่ที่สุดในไทย ใช้พันธุ์ไม้ไทยแท้ 100% ออกแบบตาม Biophilic Design มีลู่วิ่ง จุดชมวิว สวนสำหรับเด็ก สวนสำหรับสัตว์เลี้ยง เชื่อมโยงทัศนียภาพกับสวนลุมพินี
กลยุทธ์เชิงแข่งขัน
คู่แข่งหลักคือ “วัน แบงค็อก” ในบริเวณใกล้เคียง แม้ขนาดจะเล็กกว่า (เซ็นทรัล พาร์ค 130,000 ตร.ม. ต่อ วัน แบงค็อก 190,000+ ตร.ม.) แต่แข่งขันด้วยการเข้าถึงและแนวคิด
การเชื่อมต่อขนส่ง เชื่อมตรงกับ BTS และ MRT ดีกว่า วัน แบงค็อก กลยุทธ์ดึงลูกค้า มีแกนหลักชัดเจนคือ “แลนด์มาร์กอาหาร” และสวนลอยฟ้าสาธารณะ วันเปิดมีผู้เข้าชมกว่า 70,000 คน เกินกว่าตอนเปิด วัน แบงค็อก
แนวโน้มอนาคต
โครงการตั้งเป้าผู้เข้าชม 70,000 คนต่อวัน หรือ 25 ล้านคนต่อปี (ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว) ออกแบบเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกเป้าหมาย 10 ล้านนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อปี
พิธีเปิดอย่างเป็นทางการของศูนย์การค้ากำหนดในเดือนพฤศจิกายน 2025 การส่งมอบที่พักอาศัยเริ่มครึ่งหลังปี 2025
นัยยะสำคัญต่อภาคธุรกิจ
ความสำเร็จของโครงการผสมผสานนี้อาจตั้งมาตรฐานใหม่ให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะแนวทาง “เอกชนจัดหาพื้นที่สาธารณะ” จะส่งผลต่อโครงการพัฒนาอื่นๆ
สำหรับภาคธุรกิจ การมีออฟฟิสระดับ A เพิ่มขึ้นจะขยายโอกาสในการหาคนและสร้างแบรนด์ สภาพแวดล้อมการทำงานที่เน้นสุขภาวะจะดึงดูดบริษัทระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับ ESG
ในภาคค้าปลีก จะเป็นตัวอย่างความสำเร็จของแบบจำลองการค้าที่เน้น “ประสบการณ์” และ “การคัดสรร” ให้แนวทางค้าปลีกยุคดิจิทัล
BKK IT News คาดว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบความร่วมมือภาครัฐเอกชนในการพัฒนาเมืองไทยรูปแบบใหม่ แนวทางที่สร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนและผลกำไรจะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับโครงการขนาดใหญ่ต่อไป
อ้างอิง
- Central Pattana Unveils “Central Park” on September 4 — Redefining Thailand’s Retail Landscape
- Central Park: The Latest Game-Changer in Bangkok’s Downtown Scene
- A Deep Look at Central Park, a 4.6 Billion-Baht Jigsaw Puzzle
- Dusit Central Park
- Thailand’s Largest Urban Roof Park Opens at Dusit Central Park
