ปัญหาขาดแคลนบุคลากร IT ของบริษัทไทย ~ Kintone AI Lab เครื่องมือ No-code ที่เป็นทางออกหนึ่ง

ปัญหาขาดแคลนบุคลากร IT ของบริษัทไทย ~ Kintone AI Lab เครื่องมือ No-code ที่เป็นทางออกหนึ่ง IT
IT

บริษัทขนาดกลางและเล็ก (SME) ที่เป็น 99% ของบริษัทในไทยกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนบุคลากร IT อย่างรุนแรง การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ IT เฉพาะทางอย่างต่อเนื่องทำให้หลายบริษัทแม้จะรู้ถึงความจำเป็นในการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน แต่กลับหาทางออกที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ Kintone จากบริษัท SaaS ญี่ปุ่น Cybozu ได้นำ “Kintone AI Lab” ที่ติดตั้ง AI สำหรับสร้างแอปพลิเคชันเข้าสู่ตลาดไทย กำลังได้รับความสนใจในฐานะทางออกหนึ่งจากเครื่องมือ No-code

รากฐานกลยุทธ์ระยะยาวของ Kintone

การเข้าสู่ตลาดไทยของ Kintone มีพื้นฐานจากกลยุทธ์ระยะยาวที่รอบคอบ ในปี 2020 Cybozu ได้จัดตั้ง Business Strategy Office โดยมี 8 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเป้าหมาย และเริ่มการขยายตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป ปี 2022 ตั้งบริษัทในมาเลเซียเพื่อสร้างหน้าที่บริหารจัดการระดับภูมิภาค และในเดือนมีนาคม 2024 ได้จัดตั้งบริษัทไทย “Kintone (Thailand) Co., Ltd.” ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนคือให้ได้สัญญา 500 บริษัทในไทยภายในปี 2025

ด้านผลิตภัณฑ์ก็ได้เตรียมการมาอย่างมั่นคง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ทำให้แพลตฟอร์ม Kintone รองรับภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์ และในเดือนมีนาคมได้เปิด APAC Customer Support Center ที่มะนิลา การรองรับภาษาท้องถิ่นเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อความสำเร็จของเครื่องมือ AI ที่ใช้การป้อนข้อมูลด้วยภาษาธรรมชาติเป็นหลัก การสร้างรากฐานนี้ทำให้สามารถนำ AI Lab เข้ามาได้

ฟังก์ชันใหม่ล้ำสมัยของ Kintone AI Lab

Kintone AI Lab ที่ประกาศไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมเป็นบริการที่แปลกใหม่ที่ทำให้พนักงานทั่วไปที่ไม่มีความรู้ IT เฉพาะทางสามารถสร้างแอปพลิเคชันธุรกิจระดับสูงได้ ฟังก์ชันหลักแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

ฟังก์ชัน AI App Creator จะให้ผู้ใช้ป้อนข้อกำหนดด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น “ต้องการแอปสำหรับติดตามการสอบถามจากลูกค้า” AI จะแปลความตั้งใจและเสนอโครงสร้างแอปพลิเคชันที่มี Data Field ที่เหมาะสม ฟังก์ชัน AI Process Creator สามารถตั้งค่า Approval Flow และ Business Process ที่ซับซ้อนผ่านการสนทนาแบบแชท

การให้บริการในรูปแบบเบต้าฟรียังมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ SME ของไทยมักจะระมัดระวังในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้และให้ความสำคัญกับต้นทุนการลงทุนเริ่มแรก การให้ฟรีช่วยขจัดอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการนำมาใช้และมุ่งหมายขยายฐานผู้ใช้อย่างรวดเร็ว

วิธีการทางวัฒนธรรมจาก Kintone Day Bangkok วันที่ 3 กันยายน

สิ่งที่ประทับใจการเข้าสู่ตลาดไทยเต็มรูปแบบคืองาน “Kintone Day Bangkok” ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 กันยายน หัวข้อคือ “AI NEXTREAM〜ลมใหม่สู่ KAIZEN ของไทย” นาย Yoshihisa Aono ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cybozu ขึ้นเวทีด้วยตนเองและบรรยายเกี่ยวกับอนาคตการใช้ AI ในไทย

การเลือกคำว่า “KAIZEN (การปรับปรุง)” เป็นกลยุทธ์การตลาดที่แยบยลมาก “Digital Transformation” มักจะฟังดูเป็นแนวคิดที่ใหญ่โตและมีต้นทุนสูงสำหรับ SME หลายแห่ง แต่ “KAIZEN” เป็นคำที่คุ้นเคยในไทยที่มีบริษัทญี่ปุ่นมาก หมายถึงการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ อย่างต่อเนื่องที่พนักงานในสถานที่ทำงานเป็นผู้นำ ทำให้ AI ถูกกำหนดใหม่เป็นเครื่องมือที่ช่วยปรับปรุงงานประจำวัน ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ก่อกวน

ปัญหา IT ที่รุนแรงขึ้นของบริษัทไทย

รัฐบาลไทยประกาศดิจิทัลเป็นเป้าหมายของชาติผ่านกลยุทธ์ “ไทยแลนด์ 4.0” และ “กลยุทธ์ AI ของชาติ (2022-2027)” แต่ความเป็นจริงนั้นรุนแรง SME ที่เป็น 99% ของบริษัททั้งหมดเผชิญอุปสรรคสูงต่อการดิจิทัล

ที่รุนแรงที่สุดคือการขาดแคลนบุคลากร IT อย่างต่อเนื่อง ความยากลำบากในการหาเงินทุนสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีและการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารรุ่นเก่าทำให้หลายบริษัทติดอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก

สิ่งที่น่าสนใจคือความเป็นสองหน้าของตลาดไทย ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 91% สัมผัส AI ในชีวิตประจำวัน แต่ในบรรดาผู้ใช้ AI ในที่ทำงาน มีเพียง 3 ใน 10 เท่านั้นที่ตอบว่าบริษัทตนมีกลยุทธ์ AI ที่ชัดเจน “ช่องว่างการนำ AI มาใช้ระหว่างผู้บริโภคและองค์กร” นี้เผยให้เห็นความรุนแรงของปัญหาขาดแคลนบุคลากร IT

สภาพแวดล้อมการแข่งขันและมุมมองอนาคต

ในตลาด No-code และ Low-code ของไทย บริษัทระดับโลกอย่าง Microsoft Power Apps, Salesforce Platform, Zoho Creator แข่งขันกันอย่างดุเดือด จุดแตกต่างของ Kintone คือความใช้งานง่ายและการเฉพาะทางสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ใช่เทคนิค และการมี Local Presence ที่แข็งแกร่ง การจัดตั้งบริษัทไทยและการรองรับภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ทำให้มีความได้เปรียบมากเหนือคู่แข่งที่ขยายตัวทั่วโลกเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม Brand Power และงบประมาณการตลาดที่ล้นหลามของ Microsoft และ Salesforce และพลังการผสานรวมกับ Ecosystem ที่มีอยู่เป็นภัยคุกคามใหญ่ Kintone ไม่เพียงต้องสร้างความเหนือกว่าด้านฟังก์ชัน แต่ยังต้องสร้าง “ความได้เปรียบการแข่งขันแบบนิ่ม” ที่มีความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมและกลยุทธ์การปรับให้เข้ากับท้องถิ่นเป็นหัวใจ

BKK IT News คาดการณ์ว่าการนำเครื่องมือ No-code ที่ติดตั้ง AI มาใช้ในตลาด SME ของไทยจะเร่งขึ้นอย่างมากในอีก 18 เดือนข้างหน้า สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายสัญญา 500 บริษัทของ Kintone อัตราการใช้งานจริงของฟังก์ชัน AI Lab และมาตรการตอบโต้ของคู่แข่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่กำหนดทิศทางของตลาด

ทางเลือกในการรับมือกับการขาดแคลนบุคลากร IT

สำหรับบริษัทไทยที่ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร IT เครื่องมือ No-code อย่าง Kintone AI Lab อาจเป็นทางออกหนึ่งได้ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาแผนก IT

หากพิจารณาการนำมาใช้ วิธีการที่เป็นจริงคือเริ่มจาก Business Process เล็กๆ (เช่น การขออนุญาตลาหยุด การจัดการอุปกรณ์) และขยายขอบเขตการใช้งานทีละขั้น ด้านความปลอดภัยของข้อมูล การที่ Kintone รับประกันว่าจะไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้ไปเรียนรู้โมเดล AI ภายนอกเป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา

ในช่วงที่ให้บริการเบต้าฟรี สามารถตรวจสอบประสิทธิผลในงานจริงและวัดผลตอบแทนการลงทุนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะนำมาใช้หรือไม่

ลิงก์บทความอิง