อุตสาหกรรมสื่อไทยแสดงปฏิกิริยาที่ซับซ้อนต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การสำรวจพบว่าสื่อ 95% ใช้เครื่องมือ AI อย่างแข็งขัน แต่ 85% มีความกังวลเรื่องความแม่นยำของข้อมูล สถานการณ์ “สองความคิด” นี้แสดงถึงการอยู่ร่วมกันของความคาดหวังเรื่องประสิทธิภาพที่ AI จะนำมากับความกังวลต่อภัยคุกคามที่มีต่อคุณค่าพื้นฐานของวารสารศาสตร์
การถูกคลื่นการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลกลืนกิน
อุตสาหกรรมสื่อไทยประสบการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทีวีภาคพื้นดินในปี 2014 ทำให้จำนวนช่องเพิ่มขึ้น 4 เท่า แต่กลับทำให้ผู้ชมและรายได้โฆษณาแยกส่วนอย่างรุนแรง ผู้ประกอบการสื่อหลายรายเผชิญกับปัญหาทางการเงิน
สถานการณ์ที่ทำให้เรื่องนี้รุนแรงยิ่งขึ้นคือการแพร่หลายของโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มมือถือ ในปี 2025 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียในไทยถึง 51 ล้านคน คนอายุ 18-34 ปี ประมาณ 2 ใน 3 พึ่งพาโซเชียลมีเดียเป็นแหล่งข่าว การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนี้ทำให้รายได้จากโฆษณาและค่าสมาชิกของสื่อดั้งเดิมลดลงอย่างมาก อุตสาหกรรมทั้งหมดตกอยู่ใน “ความไม่มั่นคงทางการเงิน”
การยกเลิกหนังสือพิมพ์ฉบับพิมพ์ของ “The Nation” และการรวมกิจการของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายแห่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจนี้ บริษัทสื่อต่างๆต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและหาทางลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเร่งด่วน
การใช้เครื่องมือ AI และความรู้สึกที่ซับซ้อน
จากภูมิหลังเช่นนี้ AI จึงเป็นเสมือน “ผู้ช่วยเหลือ” สำหรับบริษัทสื่อจำนวนมาก การสำรวจของมูลนิธิสื่อไทยพบว่าบริษัท 85% ใช้ AI ในการรวบรวมข้อมูล บริษัท 70% ใช้ในการแปลงเสียงเป็นข้อความและสรุปข้อมูล ที่น่าสนใจคือบริษัท 60% ใช้ในการสร้างภาพและวิดีโอ บริษัท 45% ใช้ในการเขียนบทความ
ตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่นคือสื่อดิจิทัล The Standard ที่จัดตั้ง “ทีม AI Strike” ประมาณ 20 คน เพื่อทดสอบเครื่องมืออย่าง Perplexity และ DeepSeek อย่างแข็งขัน บริษัทถือว่า AI เป็น “พันธมิตรที่ควรต้อนรับ” และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก
การริเริ่มที่เป็นที่จับตามองที่สุดคือการปรากฏตัวของผู้ประกาศข่าว AI เมื่อเดือนเมษายน 2024 Nation TV เปิดตัวผู้ประกาศข่าว AI รายแรกของไทย “นัชชา” และ “นิชชาน” เดือนพฤษภาคม Mono 29 เปิดตัว “มาริสา” ผู้ประกาศข่าว AI เหล่านี้ “ไม่มีอุปสรรคด้านภาษา” และยังทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเซเดอร์ด้วย
แต่ภายใต้อัตราการใช้งานสูงนี้ยังมีความกังวลอย่างจริงจัง ผู้ตอบแบบสอบถาม 85% กังวลเรื่องความแม่นยำของข้อมูล ผู้ตอบ 80% กังวลเรื่องลิขสิทธิ์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ผู้ตอบ 75% เรียกร้องให้มีธรรมาภิบาลและการควบคุมที่ดีขึ้น ผู้ตอบ 55% กังวลว่า AI จะแทนที่งานของมนุษย์
สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือการตัดสินใจอย่างเยือกเย็นของผู้เชียวชาญเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ AI ผู้เชียวชาญอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นว่า “AI รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ไม่สามารถเชื่อถือได้อย่างสมบูรณ์” The Standard ยังคงยืนยันนโยบาย “บรรณาธิการยังต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด” ท่าทีนี้แสดงให้เห็นถึงสถานะที่ “สองความคิด” อยู่ร่วมกันของการส่งเสริม AI พร้อมกับการจำกัดและความเสี่ยง
การเคลื่อนไหวสร้างธรรมาภิบาลอย่างแข็งขัน
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ การสร้างธรรมาภิบาลกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วทั้งในระดับอุตสาหกรรมและรัฐบาล สภาข่าวแห่งชาติไทยประกาศ “แนวทางการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมในสื่อ” อย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2024 แนวทางนี้มุ่งรับประกันว่าการใช้ AI จะไม่ทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อและจะอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์เสมอ
ในระดับบริษัทการควบคุมตนเองกำลังก้าวหน้า True Corporation ประกาศ “กฎบัตร AI” ของตนเองที่ประกอบด้วยหลักการ 4 ประการ คือ “เจตนาดี” “ความยุติธรรม” “ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล” และ “ความโปร่งใส” ในระดับสากลไทยมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในฐานะประเทศเจ้าภาพร่วมของ UNESCO ใน “Global Forum on AI Ethics”
กลยุทธ์ระดับชาติมุ่งเน้น “ความพร้อม” (การฝึกอบรมผู้เชียวชาญ) และ “การนำไปใช้” (การใช้ AI ในภาคส่วนหลัก) เป็น 2 เสาหลัก รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกำหนดมาตรฐานและการใช้ระบบ sandbox ก่อนที่จะตรากฎหมายที่เข้มงวด
แนวโน้มและการตอบสนองเชิงกลยุทธ์
การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมสื่อไทยเป็นกระแสที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ กุญแจสำคัญของความสำเร็จอยู่ที่แนวทางที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เครื่องมืออย่างผู้ประกาศข่าว AI มีประสิทธิภาพในการดึงดูดความสนใจระยะสั้น แต่มีความเสี่ยงที่จะทำลายความไว้วางใจทางสังคมในระยะยาว ความไว้วางใจคือทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของสถาบันสื่อ
ในอนาคตการสร้างระบบ “Human-in-the-Loop” ที่เสริมสร้างทักษะที่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้จะเป็นสิ่งสำคัญ ทักษะเหล่านั้นคือการคิดเชิงวิพากษ์ การข่าวสืบสวน การตัดสินใจเชิงจริยธรรม การใช้ AI อย่างเหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งของระบบนี้ องค์กรสื่อต้องมีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์ในการใช้ AI องค์กรต้องเปลี่ยนไปสู่การสร้างคุณค่าที่ AI ไม่สามารถทำซ้ำได้ เช่น การวิเคราะห์เชิงลึกที่มีเอกลักษณ์และข่าวพิเศษ
สำหรับผู้บริหารองค์กรการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล แต่ในขณะเดียวกันหมายถึงการตัดสินความจริงเท็จของข้อมูลจะยากขึ้น สาเหตุคือเนื้อหาที่ AI สร้างขึ้นล้นหลาม การคัดสรรแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และการสร้างระบบบริหารความเสี่ยงที่ใช้แหล่งข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบหลายแหล่งจะเป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ธุรกิจในอนาคต
“สองความคิด” ที่อุตสาหกรรมสื่อไทยเผชิญอยู่เป็นตัวอย่างเบื้องต้นของปัญหาที่ทุกอุตสาหกรรมในยุค AI จะต้องเผชิญ การแสวงหาสมดุลที่ลงตัวระหว่างการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเทคโนโลยีและการรักษาคุณค่าพื้นฐานของมนุษย์จะเป็นกุญแจสำคัญ สิ่งนี้จะกำหนดความได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคต