ธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย ขณะนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยยอดขายในปี 2024 ที่ถึง 101.5 หมื่นล้านบาท เติบโตจาก 75.38 หมื่นล้านบาทในปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 34.7% กลายเป็น “ดาวรุ่ง” ในวงการค้าปลีก เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้มาจากการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์หลังโควิด การขยายตัวของการชำระเงินแบบไร้เงินสด และโครงสร้างธุรกิจที่ให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเข้าถึงได้ง่าย
ประวัติศาสตร์และพื้นฐานการเติบโต
ความสำเร็จของธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติในปัจจุบันต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางสังคมระยะยาวและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี
การขยายตัวของเมืองและการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์
กระบวนการขยายตัวของเมืองที่ดำเนินมาหลายทศวรรษได้เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เมืองหลักอย่างสิ้นเชิง ในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่อื่นๆ การเดินทางไปทำงานที่ใช้เวลานานและชั่วโมงทำงานที่ยาวนานขึ้นทำให้วิถีชีวิต “เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา” เข้ามาตั้งรกราก การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ความต้องการด้านความรวดเร็วและความสะดวกสบายเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
จากการสำรวจของ Marketbuzzz ที่มีผู้ตอบแบบสอบถาม 977 คน เหตุผลหลักที่เลือกใช้ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติคือ “ความสะดวกสบาย” (72%) “ประหยัดเวลา” (50%) และ “สามารถซื้อสินค้าได้ทันที” (43%) ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของผู้บริโภคไทยอย่างชัดเจน
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินแบบดิจิทัล
“แผนแม่บทการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ” และการเปิดตัว PromptPay ที่รัฐบาลไทยขับเคลื่อนมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ อัตราการแพร่กระจายของโทรศัพท์มือถือถึง 141% (การเชื่อมต่อที่ใช้งานจริง 101.2 ล้านเครื่อง) และกระเป๋าเงินดิจิทัลในปี 2023 มีจำนวนบัญชี 116.5 ล้านบัญชี มูลค่าการทำรายการประมาณ 7,134 หมื่นล้านบาท
การชำระเงินผ่าน QR Code ใช้งานได้ในร้านค้าปลีกกว่า 70% ของเมืองหลัก ซึ่งทำให้ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติสามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีนี้ช่วยขจัดข้อจำกัดทางประวัติศาสตร์ของตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ คือ “ความไม่สะดวกในการหาเหรียญ” หากไม่มีการเตรียมพื้นฐานเทคโนโลยีนี้ การเติบโตในปัจจุบันคงเป็นไปไม่ได้
สถานการณ์ตลาดและลักษณะเด่นปัจจุบัน
โมเดลการเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยธุรกิจขนาดกลางและเล็ก
จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าจากผู้ประกอบการตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 760 ราย นั้น 95% เป็นธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SME) ซึ่งแตกต่างจากตลาดค้าปลีกไทยโดยทั่วไปที่คอนกลอมเมอเรตขนาดใหญ่ครองตลาด
การลงทุนเริ่มแรกที่ต่ำและความต้องการพื้นที่ติดตั้งที่น้อยเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด “การประชาธิปไตยในธุรกิจค้าปลีก” นี้ขึ้น บุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการขนาดเล็กสามารถดำเนินธุรกิจค้าปลีก 24 ชั่วโมง ทุกวัน ในสถานที่ที่เคยไม่สามารถสร้างรายได้ได้ เช่น ล็อบบี้ของคอนโดมิเนียม
การไหลเข้าของการลงทุนจากต่างประเทศ
ตลาดดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า 619 ล้านบาท แหล่งลงทุนหลักคือ ฮ่องกง (455 ล้านบาท) หมู่เกาะเคย์แมน (76 ล้านบาท) และออสเตรีย (27 ล้านบาท)
การลงทุนจากฮ่องกงน่าสนใจเป็นพิเศษ ฮ่องกงเป็นตลาดที่พัฒนาแล้วและมีตู้ขายสินค้าอัตโนมัติหนาแน่น นักลงทุนตัดสินใจว่าสภาพแวดล้อมในเขตเมืองไทยคล้ายคลึงกับตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในประเทศตน นี่ไม่ใช่การลงทุนเก็งกำไร แต่เป็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ที่เข้าใจปัจจัยพื้นฐานของตลาด
นวัตกรรมเทคโนโลยีและการพัฒนาแบบอัจฉริยะ
ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติไทยในปัจจุบันไม่ใช่เพียงเครื่องขายสินค้าธรรมดา แต่เป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกที่ทันสมัย ระบบหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 32 หรือ 50 นิ้ว ระบบชำระเงิน QR Code และฟีเจอร์การจัดการแบบคลาวด์ผ่าน IoT เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ “เต่าบิน” จากบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง ที่ให้บริการเครื่องดื่มร้อน-เย็น และแช่แข็งแบบปรับแต่งได้กว่า 170 ชนิด ติดตั้งมากกว่า 6,000 เครื่องจนถึงปี 2023 และขายได้วันละ 200,000 แก้ว ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเช่นนี้ให้ประสบการณ์ที่เกินความคาดหวังของผู้บริโภคอย่างมาก
การขยายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ตลาดขยายตัวอย่างมากจากเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวแบบเดิม ปัจจุบันเครื่องดื่มคิดเป็นประมาณ 60% ส่วนอีก 40% ประกอบด้วยอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ผลไม้สด ของเล่นศิลปะ รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ดังอย่าง Sabina (ชุดชั้นใน) และ After You (ของหวาน)
แบรนด์ชั้นนำอย่าง After You และ Sabina ใช้ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติเป็นเครื่องมือการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคแบบ D2C (Direct-to-Consumer) เชิงยุทธศาสตร์ ทำให้สามารถสร้างการมีอยู่ของแบรนด์ในสถานที่ที่การเปิดร้านแบบเดิมเป็นไปไม่ได้ (เช่น ล็อบบี้ของสำนักงาน) และรวบรวมข้อมูลการขายที่มีค่าโดยตรง
แนวโน้มและความท้าทายในอนาคต
ความเป็นไปได้ในการขยายสู่ภูมิภาค
ปัจจุบันตู้ขายสินค้าอัตโนมัติส่วนใหญ่กระจุกตัวในกรุงเทพฯและภาคตะวันออกที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เมืองระดับภูมิภาคและพื้นที่ชนบทยังมีศักยภาพขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้พัฒนา เมื่อความรู้ดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น
การจัดระเบียบสภาพแวดล้อมการกำกับดูแล
ในทางกลับกัน สภาพแวดล้อมการกำกับดูแลยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะตู้ขายน้ำอัตโนมัติ จากการสำรวจพบว่ากว่า 90% ดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาตที่เหมาะสม ทำให้เกิดข้อกังวลเรื่องสุขอนามัย การบำรุงรักษา และคุณภาพน้ำ กทม.และกระทรวงสาธารณสุขกำลังเสริมสร้างการกำกับดูแล แต่อาจเป็นความเสี่ยงที่มีศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการ
การตอบสนองต่อความยั่งยืน
เมื่อการตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้น การใช้ระบบประหยัดพลังงานและการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้จะกลายเป็นปัจจัยในการได้เปรียบในการแข่งขัน BKK IT News คาดการณ์ว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีในสาขานี้จะเป็นตัวกำหนดการเติบโตในอนาคต
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการ
การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติให้โอกาสใหม่แก่อุตสาหกรรมค้าปลีกแบบเดิม ผู้ประกอบการควรพิจารณาประเด็นต่อไปนี้
ความสำคัญของยุทธศาสตร์การเลือกที่ตั้ง: กุญแจสำคัญของความสำเร็จคือการติดตั้งในพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น การวิเคราะห์การเลือกที่ตั้งโดยใช้ข้อมูลจะมีความสำคัญมากขึ้น
การสร้างระบบการจัดการสินค้าคงคลัง: การใช้ข้อมูลการขายแบบเรียลไทม์ช่วยปรับปรุงการจัดสินค้าแบบไดนามิก สิ่งนี้จำเป็นต่อการรับประกันผลกำไร
การปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภค: การให้บริการสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและสินค้าที่มีเอกลักษณ์กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน
ความจำเป็นของการลงทุนด้านเทคโนโลยี: การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงเช่น AI การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ การปรับแต่งเฉพาะบุคคล และการชำระเงินแบบไบโอเมตริกมีความจำเป็น สิ่งนี้จะช่วยรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน
การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติไทยไม่ใช่เทรนด์ชั่วคราว การผสานของปัจจัยที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ได้แก่ ความต้องการของผู้บริโภคที่รากลึกด้านความสะดวกสบาย โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของอุตสาหกรรมค้าปลีก “การปฏิวัติค้าปลีกไร้คน” นี้กำลังสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ ปรับรูปแบบพฤติกรรมผู้บริโภค และกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับภาคค้าปลีกไทย
ลิงก์บทความอ้างอิง
- Vending Machines Emerge as a Star Business in Thailand’s Retail Sector
- ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ฟีเวอร์! เทรนด์ค้าปลีกมาแรง รายได้ทะลุหมื่นล้าน – Kaohoon
- กรมพัฒน์ฯ ชี้ “ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ” ดาวรุ่งค้าปลีก ลงทุนต่ำ-โตแรง กวาดหมื่นล้านในปีเดียว | อีจัน
- เจาะลึก! ทำไมธุรกิจตู้อัตโนมัติในไทยโตแรงไม่หยุด #BenyiamBetterLIVE – YouTube
- Vending machine business bucks economic trend as demand for convenience grows