เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติการลงทุนศูนย์ข้อมูลมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณหนึ่งแสนล้านบาท โครงการขนาดใหญ่ 4 โครงการมาจากญี่ปุ่น จีน และตะวันออกกลาง การลงทุนนี้จะเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย ศูนย์ข้อมูล Hyperscale ที่รองรับยุค AI จะได้รับการพัฒนา ไทยกำลังมุ่งสู่การเป็น Digital Hub ของอาเซียน
4 โครงการหลักที่ได้รับการอนุมัติ
KDDI จากญี่ปุ่นจะลงทุน 7,550 ล้านบาทในย่านห้วยขวางกรุงเทพฯ กำลังไฟฟ้า IT อยู่ที่ 12 MW ส่วน ZDATA จากจีนจะลงทุน 9,090 ล้านบาทในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี กำลังไฟฟ้า IT อยู่ที่ 80 MW
DAMAC Digital จากดูไบจะดำเนินโครงการ 2 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมนวนครปทุมธานี โครงการแรกคือ NextGen Data Center and Cloud Services มูลค่า 26,700 ล้านบาท กำลังไฟฟ้า IT อยู่ที่ 84 MW โครงการที่สองคือ Zenith Data Center and Cloud Services มูลค่า 54,900 ล้านบาท กำลังไฟฟ้า IT อยู่ที่ 200 MW ทั้งสองโครงการเป็นศูนย์ข้อมูล Hyperscale ที่รองรับ AI ความหนาแน่นพลังงานสูงถึง 140 kW ต่อตู้ โครงการทั้งสองของ DAMAC Digital คิดเป็นกว่า 80% ของมูลค่าการอนุมัติทั้งหมด
กลยุทธ์ Digital Hub ของไทย
การอนุมัติการลงทุนครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกะทันหัน รัฐบาลไทยดำเนินกลยุทธ์ชาติ “ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจที่เน้นการผลิตไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รัฐบาลอนุมัติ “แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (2024-2027)” ในเดือนพฤศจิกายน 2024 แผนนี้กำหนดให้ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็น “ASEAN Digital Hub”
Hub ศูนย์ข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอดีตคือสิงคโปร์ แต่สิงคโปร์กำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนที่ดินและขีดจำกัดความจุไฟฟ้า ความต้องการจึงไหลเข้าสู่ประเทศใกล้เคียง มาเลเซียและไทยกำลังแข่งขันกันเพื่อเป็น Digital Hub รุ่นใหม่ของภูมิภาค
ไทยใช้ประโยชน์จากความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์ ผู้ลงทุนมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งญี่ปุ่น จีน และตะวันออกกลาง ในยุคที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรง ไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีของทั้งสองประเทศได้
เงื่อนไขใหม่ของ BOI และการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
BOI ได้อนุมัติ “การปรับปรุง” เงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนสำหรับธุรกิจศูนย์ข้อมูลในวันเดียวกับที่อนุมัติการลงทุน 1,000 ล้านบาท เงื่อนไขแรกคือการกำหนดให้ “ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ” ต้องมีสัดส่วนคนไทย 50% ขึ้นไป โดยต้องบรรลุเป้าหมายนี้ภายใน 3 ปีหลังเริ่มดำเนินงาน
เงื่อนไขที่สองคือการสร้างความแตกต่างของสิทธิประโยชน์ระหว่าง EEC กับพื้นที่อื่น พื้นที่ใน EEC จะได้รับยกเว้นภาษีนิติบุคคล 3-5 ปี ส่วนพื้นที่นอก EEC จะได้รับยกเว้น 5-8 ปี
เงื่อนไขที่สามคือการบังคับให้มีการมีส่วนร่วมที่แท้จริงต่อไทย ผู้ประกอบการต้องส่ง “แผนการมีส่วนร่วมต่อไทย” ที่ประกอบด้วยการพัฒนาบุคลากร การวิจัยและพัฒนาในประเทศ การสนับสนุนเทคโนโลยีให้กับ SME ไทย หรือการสนับสนุน Supply Chain ในประเทศ ผู้ประกอบการต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จจึงจะใช้สิทธิยกเว้นภาษีนิติบุคคลได้
การรับมือกับปัญหาพลังงาน
ศูนย์ข้อมูลโดยเฉพาะที่ประมวลผล Workload ของ AI ใช้พลังงานจำนวนมหาศาล Think Tank ด้านพลังงานจากอังกฤษ Ember วิเคราะห์ว่าการเติบโตของศูนย์ข้อมูลในไทยจะสร้างความต้องการพลังงานเพิ่มเติม 10 Terawatt-hour ต่อปีภายในปี 2037 นี่คิดเป็นประมาณ 5% ของความต้องการพลังงานทั้งหมดของไทยในปัจจุบัน
บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Amazon, Google, Microsoft ที่เป็นผู้นำการลงทุนมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลจาก “พลังงานหมุนเวียน 100%” คำตอบเชิงกลยุทธ์ของรัฐบาลไทยคือการนำโปรแกรมนำร่อง “สัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง (Direct Power Purchase Agreement – DPPA)” มาใช้
รัฐบาลไทยอนุมัติเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ให้ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI เท่านั้นสามารถทำสัญญา PPA โดยตรงกับผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้โครงข่ายส่งไฟฟ้าที่มีอยู่เป็นบริการ “Wheeling” โปรแกรมนำร่องนี้จำกัดให้เฉพาะศูนย์ข้อมูลที่ได้รับการรับรองจาก BOI และมีกรอบสูงสุด 2,000 MW คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (ERC) เปิดเผยร่างกฎเมื่อเดือนตุลาคม 2025 กำลังปรับปรุงขั้นสุดท้ายเพื่อเริ่มโปรแกรมภายในสิ้นปี 2025
ผลกระทบต่อธุรกิจไทย
การอนุมัติการลงทุนศูนย์ข้อมูลครั้งนี้มีความหมายสำคัญต่อธุรกิจไทย การที่มีศูนย์ข้อมูลในประเทศจะช่วยลดต้นทุนการใช้บริการ Cloud ระยะทางทางกายภาพของข้อมูลที่ใกล้ขึ้นจะช่วยลด Latency คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
กฎใหม่ของ BOI ที่บังคับให้จ้างผู้เชี่ยวชาญไทยจะทำให้ความรู้การบริหารศูนย์ข้อมูลระดับสูงสะสมอยู่ในประเทศไทย บริษัทศูนย์ข้อมูลถูกบังคับให้ทำ R&D การพัฒนาบุคลากร และการสนับสนุนเทคโนโลยีให้กับ SME ในประเทศไทย สิ่งนี้จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของไทย ธุรกิจไทยจะได้รับโอกาสในการรับประโยชน์จากความพยายามเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของศูนย์ข้อมูลนำมาซึ่งความท้าทายด้านโหลดไฟฟ้าและทรัพยากรน้ำ ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มเติม 10 TWh ภายในปี 2037 จะสร้างโหลดหนักต่อโครงข่ายไฟฟ้าที่มีอยู่ของไทย หากการขยายตัวของการจัดหาพลังงานหมุนเวียนไม่ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น มีความเสี่ยงที่การปล่อย CO2 ของประเทศทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น
ศูนย์ข้อมูลโดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ความหนาแน่นสูงสำหรับ AI ใช้น้ำจำนวนมากในการระบายความร้อน ไทยมีสภาพอากาศเขตร้อน หลายพื้นที่เผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง
แนวโน้มในอนาคต
จากมุมมองของ BKK IT News คาดว่าการลงทุนศูนย์ข้อมูลในไทยจะเพิ่มขึ้นต่อไป ท่ามกลางข้อจำกัดด้านความจุของสิงคโปร์และการแข่งขันกับมาเลเซีย ไทยมีจุดแข็งเฉพาะตัวคือความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนของความสำเร็จนี้ขึ้นอยู่กับการรับมือกับความท้าทาย 3 ประการ คือความเร็วในการดำเนินการ คอขวดของโครงสร้างพื้นฐาน และความไม่สอดคล้องของบุคลากร คู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือมาเลเซีย ศัตรูที่ใหญ่ที่สุดคือระบบราชการของตนเอง การเริ่มต้นโปรแกรมนำร่อง DPPA อย่างรวดเร็วและระบบ “FastPass” จะสามารถทะลุกำแพงของระบบราชการได้หรือไม่
การลงทุนศูนย์ข้อมูลเป็นโอกาสสำคัญที่จะเสริมสร้างรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ธุรกิจควรใช้ประโยชน์จากความสะดวกที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของศูนย์ข้อมูลในประเทศ พร้อมกับมีส่วนร่วมในด้านพลังงานและการพัฒนาบุคลากร เพื่อทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศดิจิทัลของไทย
ในขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่ข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและทรัพยากรน้ำจะปรากฏชัด ธุรกิจควรจัดทำแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจที่ยืดหยุ่น
บทความในอดีต “การคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยปี 2026” และ “ไทยก้าวไปสู่ Cloud Hub” ได้อธิบายภาพรวมของกลยุทธ์ดิจิทัลของไทย แนะนำให้อ่านประกอบด้วย
ลิงก์บทความอ้างอิง
- Thailand approves $3.1bn of data centre investments – Bangkok Post
- Thailand greenlights $3.1 billion in new data centre projects – Daily Times
- BOI Incentives Boost Data Centres in Thailand for Investors – Lex Nova Partners
- Thailand’s Draft Regulation on Direct Power Purchase Agreements via Third Party Access for Data Centers – Hunton Andrews Kurth LLP
- Economic Pulse Issue 7: The Rise (and Risk) of Data Center – Bank of Thailand


