LINE MAN Wongnai (LMWN) บริษัทฟู้ดเดลิเวอรีรายใหญ่ที่สุดของไทย ประกาศเลื่อนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ออกไปเป็นหลังปี 2026 คุณยอด ชินศุภกุล CEO อธิบายว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่เงินทุนทั่วโลกกระจุกตัวอยู่ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI บริษัทจึงเลือกที่จะเดินหน้าสู่การเป็น “บริษัทขับเคลื่อนด้วย AI” พร้อมพิจารณาตลาดสหรัฐฯ เป็นทางเลือกในการเข้าจดทะเบียน
แผนเดิมและเหตุผลการเลื่อน
LMWN วางแผนเข้าจดทะเบียนใน SET ในไตรมาส 3 ปี 2025 แต่ในเดือนธันวาคม 2025 คุณยอดประกาศเลื่อนออกไปเป็น “ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า” แผนใหม่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะ SET แต่พิจารณา Dual Listing กับตลาดสหรัฐฯ (NASDAQ/NYSE) หรือเข้าจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศเพียงแห่งเดียว
เบื้องหลังการเลื่อนคือปัญหาเชิงโครงสร้างของ SET ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงมีมูลค่าตลาดส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น พลังงาน ธนาคาร ค้าปลีก และท่องเที่ยว SET Index ลดลงประมาณ 13% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และนักลงทุนต่างชาติถอนเงินออกอย่างต่อเนื่อง คุณยอดชี้ว่า “สถานการณ์ตลาดในประเทศปัจจุบันอยู่นอกเหนือการควบคุมของตลาดหลักทรัพย์”
กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ “บริษัทขับเคลื่อนด้วย AI”
LMWN ใช้ช่วงเวลาที่เลื่อนการเข้าจดทะเบียนเพื่อนิยามตัวตนองค์กรใหม่ จาก “แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีอันดับ 1 ของไทย” สู่ “บริษัทขับเคลื่อนด้วย AI”
คุณยอดนำเสนอโครงสร้าง 4 ชั้นของการใช้ AI ดังนี้
ชั้นที่ 1 (เครื่องมือ): ให้สิทธิ์ใช้เครื่องมือ AI แก่พนักงานทุกคน วิศวกรใช้ GitHub Copilot พนักงานทั่วไปใช้ ChatGPT Enterprise
ชั้นที่ 2 (ลดต้นทุน): นำ AI มาใช้ในงานแบ็คออฟฟิศ เช่น ตรวจสอบเอกสาร เบิกค่าใช้จ่าย และรีวิวสัญญา เพื่อลดค่าแรงและเวลา
ชั้นที่ 3 (เพิ่มผลผลิต): ใช้ AI Agent ในงานบริการลูกค้า อัตราความสำเร็จในการจัดการเคสยกเลิกด้วย AI อยู่ที่ 70% สูงกว่าเจ้าหน้าที่มนุษย์ (50-60%)
ชั้นที่ 4 (ฟีเจอร์สำหรับร้านค้าและผู้บริโภค): สำหรับร้านค้า มีฟีเจอร์ปรับแต่งรูปเมนูอัตโนมัติ สร้างคำอธิบายสินค้า และแปลหลายภาษา สำหรับผู้บริโภค มีระบบแนะนำอาหารแบบเฉพาะบุคคลตามประวัติการสั่งซื้อและความชอบ
ตามการเปลี่ยนผ่านสู่ AI นี้ LMWN ประกาศนโยบาย “จะไม่รับพนักงานระดับจูเนียร์เพราะงานเหล่านั้นสามารถทดแทนด้วย AI ได้”
บทบาทสำคัญในนโยบาย “คนละครึ่ง พลัส”
อำนาจทางตลาดของ LMWN ได้รับการพิสูจน์อีกครั้งในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “คนละครึ่ง พลัส” ที่ดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2025 โครงการนี้มีงบรวมประมาณ 44,000 ล้านบาท รัฐบาลอุดหนุน 50% ของยอดซื้อ
ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ 65% เลือก LMWN และยอดขายเดลิเวอรีรวมจากโครงการ 63% เกิดขึ้นผ่าน LMWN ภายใน 3 สัปดาห์หลังเริ่มโครงการ มีคำสั่งซื้อมากกว่า 8 ล้านรายการ และยอดขายร้านค้าที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.2 เท่า
ผลจากนโยบายนี้ทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายอุตสาหกรรมร้านอาหารที่ติดลบ 14% ในไตรมาส 2 ปี 2025 ฟื้นตัวเป็น +5% ในไตรมาส 4 โดยเฉพาะร้านขนาดเล็กที่มียอดขายต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มียอดขายเพิ่มขึ้น 5.9 เท่า และเมืองต่างจังหวัดเติบโตสูงกว่ากรุงเทพฯ
บทความที่เกี่ยวข้อง: LINE MAN และ Grab แข่งค่าคอมมิชชันรุนแรง จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ คนละครึ่ง พลัส
บทความที่เกี่ยวข้อง: นโยบาย “คนละครึ่ง พลัส” เริ่มต้นได้ดี งบ 44,000 ล้านบาท ใช้ไป 17,000 ล้านใน 8 วัน
ความแข็งแกร่งทางการเงินและตัวขับเคลื่อนการเติบโต
EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ของ LMWN เป็นบวกแล้ว พอร์ตโฟลิโอธุรกิจประกอบด้วย
- ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี: สัดส่วนใหญ่ที่สุดของมูลค่าการซื้อขาย อัตราการเติบโตประมาณ 20% เข้าสู่ช่วงการเติบโตที่มั่นคง
- ธุรกิจนอกอาหาร: LINE MAN MART (สินค้าอุปโภคบริโภค) เติบโต 80%
- บริการทางการเงิน: สินเชื่อสำหรับร้านค้า มีอัตราการเติบโตสูงสุด
LMWN ดำเนินการ M&A เชิงกลยุทธ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปี 2023 ซื้อ FoodStory (ระบบ POS) และ Rabbit Line Pay ในปี 2025 ซื้อ Jera Cloud (POS สำหรับธุรกิจความงามและสุขภาพ) ขยายสู่ตลาดนอกอาหาร
แนวโน้มในอนาคต
คุณยอดแสดงท่าทีระมัดระวังต่อแนวโน้มปี 2026 โดยกล่าวว่าผลพวงจาก “คนละครึ่ง พลัส” อาจต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปี 2026 แต่ตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลังไตรมาส 2 ยังไม่ชัดเจน
ในมุมมองของ BKK IT News การเลื่อน IPO ของ LMWN ไม่ใช่แค่การเลื่อนกำหนดการ แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านเชิงกลยุทธ์เพื่อให้บริษัทเทคโนโลยีไทยแข่งขันในตลาดโลก การตัดสินใจไม่เข้า SET อาจส่งสัญญาณถึงสตาร์ทอัพไทยรุ่นต่อไปว่า “เป้าหมายคือ NASDAQ ไม่ใช่ SET” ในขณะเดียวกัน สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทย นี่หมายถึงความเสี่ยงที่จะสูญเสียบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
การที่ LMWN จะสร้างชื่อเสียงในฐานะบริษัท AI และบรรลุสถานะ Decacorn (มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์) ขึ้นอยู่กับผลสำเร็จของการใช้ AI ใน 1-2 ปีข้างหน้า


